3 + 4 แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชไทย & อินเตอร์ ช่วยกระจายสินค้าเกษตรช่วงวิกฤต สร้าง Smart Farmer Online ได้เร็วกว่าที่คิด

Share

Loading

ในช่วงเวลาแห่งวิกฤตนี้ e-Commerce หรือการค้าออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศยังคงดำเนินต่อไปได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายธุรกิจต่างพากันปรับกลยุทธ์การตลาดจากออฟไลน์ให้มาเป็นออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการทำการตลาดรูปแบบเดิมอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตรที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ซึ่งในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา ผู้ประกอบการสินค้าเกษตรต่างมุ่งมั่นที่จะปรับตัวเป็น Smart Farmer Online กันมากขึ้น

เพราะอย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าพื้นที่กว่า 40% ของประเทศไทยเป็นพื้นที่ทางการเกษตร และมีประชากรที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมมากถึง 10 ล้านคน ดังนั้น ในเมื่อเทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ เป็นตัวแปรสำคัญทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ยิ่งในช่วงวิกฤตโควิด-19 ด้วยแล้ว เกษตรกรคนไหนที่ปรับรูปแบบการทำตลาดเกษตรไม่ทัน ย่อมเสี่ยงอย่างมากต่อยอดขายที่อาจลดลงโดยไม่ทันตั้งตัว

ในฐานะหน่วยงานที่สนับสนุน ช่วยเหลือ และส่งเสริมผู้ประกอบการยุคใหม่ ทาง สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) จึงได้จัด “โครงการสัมมนาหลักสูตร Smart Farmer ออนไลน์สู่ตลาดโลก” เพื่อให้ความรู้และเทคนิคการขายแก่เกษตรกรรุ่นใหม่ ให้สามารถจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์และการกระจายสินค้าไปยังต่างประเทศได้ด้วยตัวเอง ผ่านแพลตฟอร์มชั้นนำต่างๆ

โดยได้รวบรวมเอาทั้งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชไทยและอินเตอร์ มาแนะนำให้ผู้เข้าอบรมได้รู้จัก พร้อมชี้ให้เห็นจุดเด่น ตลอดจนเคล็ดลับการใช้งาน ที่จะเอื้อประโยชน์ต่อการยกระดับให้ทุกคนเป็น Smart Farmer Online ได้ไม่ยาก

3 แพลตฟอร์มไทย มิตรแท้ Smart Farmer Online ช่วยกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว

Thailandpostmart

เป็นแพลตฟอร์มภายใต้การดูแลของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จึงมั่นใจและวางใจได้ถึงมาตรฐานทั้งด้านราคาและความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า

โดยแพลตฟอร์มนี้รวบรวมสินค้ามานำเสนอบนแพลตฟอร์ฟอร์มในรูปแบบของ E-Marketplace หรือร้านออนไลน์ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อเป็นช่องทางในการกระจายสินค้าทางการเกษตร สินค้าชุมชน และสินค้า OTOP ที่สามารถลงขายสินค้าได้ฟรี ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา นิติบุคคลหรือสหกรณ์

เพียงสมัครเป็นร้านค้าบน Thailandpostmart ก็สามารถเข้าถึงบริการสุดเจ๋งอย่างการช่วยตั้งราคาขาย แค่แจ้งต้นทุนมา ระบบจะคำนวณหาราคาที่เหมาะในการขาย โดยกำหนดให้ได้กำไรไม่ต่ำกว่า 15% หลังหักค่าใช้จ่าย เมื่อผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าและชำระเงินแล้ว ระบบจะส่งคำสั่งซื้อมายังร้านค้า และทางไปรษณีย์จะมารับของด้วยตัวเอง เพื่อจัดส่งให้ผู้บริโภคภายใน 1-2 วัน

และอย่างที่เกริ่นไว้ นอกจากจะสะดวกสบายแล้ว ยังมีค่าจัดส่งที่ถูกกว่าการไปส่งเองอีกด้วย รวมถึงมีจุดเด่นตรงช่องทางการจำหน่ายที่มีอย่างหลากหลาย ทั้งรูปแบบออนไลน์ที่เปิดให้สั่งสินค้าผ่านเว็บไซต์ Thailandpostmart.com และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนทั้งระบบ Android และ iOS

อีกทั้งยังมีช่องทางออฟไลน์ ที่ผู้บริโภคสามารถหาซื้อสินค้าเกษตรทั่วไทยได้ที่ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศอีกด้วย

JatujakMall

เรียกได้ว่าแพลตฟอร์มนี้เหมือนยกตลาด “จตุจักร” มาอยู่ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อกระจายสินค้าทั่วไทยและส่งออกไปทั่วโลก ซึ่งนำเสนอวิธีการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ Smart Farmer Online ทุกคนด้วยบริการจัดทำข้อมูล ถ่ายภาพและวิดีโอ เพื่อโปรโมตสินค้า

พร้อมบริการ Customer Service ตลอด 24 ชั่วโมง และตรวจเช็กสินค้าก่อนการจัดส่ง รวมถึงช่วยโปรโมตสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย มีการเก็บ Database ที่เป็นข้อมูลของผู้บริโภคมาวิเคราะห์พฤติกรรมในการซื้อสินค้า เพื่อนำมาใช้โปรโมตสินค้าให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อสินค้าซ้ำ

ทั้งยังช่วยหากลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ ที่นอกจากจะลงขายสินค้าบนเว็บไซต์ของ Jatujakmall แล้ว ยังมีบริการนำสินค้าไปลงจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอื่นๆให้ด้วย ทั้ง Amazon, eBay และ Lazada

The Hub Thailand

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชที่สร้างขึ้นโดยคนไทยเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง โดยเปิดให้จำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สินค้าความงาม สินค้าแฟชั่น อาหารแปรรูป ไปจนถึงสินค้าทางการเกษตรอย่างผัก ผลไม้ เป็นต้น

อีกทั้งยังให้บริการจำหน่ายสินค้าราคาส่งไปยังผู้ประกอบการในต่างประเทศ ที่สนใจนำเข้าสินค้าของไทยไปจำหน่ายในประเทศอื่นๆด้วย จึงเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถจำหน่ายสินค้าทั้งปลีกและส่งได้ในตัว

โดยผู้ใช้บริการสามารถเปิดร้านบน The Hub Thailand ได้ฟรี มีบริการถ่ายรูปสินค้าให้ พร้อมทำการตลาดออนไลน์ด้วยแคมเปญต่างๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภค อย่างการให้คูปองส่วนลด และสร้าง Keyword หรือคำค้นหาใน Google เพื่อให้ค้นเจอสินค้าได้ง่ายมากขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น จุดเด่นของแพลตฟอร์มนี้ คือ การให้บริการขนส่งสินค้าที่รวดเร็ว โดยเฉพาะเกษตรกรในกรุงเทพฯ มีบริการเข้าไปรับสินค้าและจะนำส่งถึงมือผู้บริโภคได้ภายในเวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น

4 แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชยอดนิยมระดับอินเตอร์ กับฟีเจอร์ที่เหล่า Smart Farmer อาจยังไม่รู้

Shopee

ขึ้นแท่นเป็นแพลตฟอร์ม e-Commerce สุดฮิตที่เกษตรกรไทยใช้เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์กันอยู่แล้ว ด้วยจุดแข็งที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงมีช่องทางการตลาดที่หลากหลายทั้งการโปรโมตแพลตฟอร์มในสื่อออนไลน์และสื่อออฟไลน์

ทั้งการใช้พรีเซนเตอร์ ทำแคมเปญในวันพิเศษ แจกคูปองส่วนลดค่าสินค้า และมอบส่วนลดค่าจัดส่งให้กับผู้บริโภคและร้านค้าอยู่เสมอ ทำให้ผู้ขายไม่ต้องเหนื่อยทำการตลาดด้วยตัวเอง

รวมถึง Shopee ได้เข้ามาอำนวยความสะดวกช่วยจัดการสต็อกสินค้าให้ง่ายขึ้น เพียงใส่จำนวนสินค้าลงในระบบ หากมีการจำหน่ายสินค้าออกไป ทางระบบก็จะตัดสต็อกให้ทันที แถมยังช่วยเรื่องการชำระเงินและการขนส่ง โดยสามารถเปิดร้านจำหน่ายสินค้าได้ฟรี ด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่ง่าย และมีบริการให้ความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาอีกด้วย

Lazada

เรียกว่าตีคู่มากับ Shopee แบบกินกันไม่ลง กับอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 6 ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม Lazada จึงเหมาะสำหรับ Smart Farmer ที่ต้องการตีตลาดในแถบเอเชีย

โดย Lazada มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาตลอด แถมยังจัดคอร์สให้ความรู้เรื่อง e-Commerce ฟรี ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ร้านค้าออนไลน์ต้องร้องว๊าว อย่างการเปิดโอกาสให้ร้านค้าไลฟ์สดขายสินค้าได้ฟรี โดย Lazada มีแคมเปญช่วยกระตุ้นยอดขายอยู่เสมอทั้งการจัดโปรโมชันในวันพิเศษ การมอบส่วนลดสินค้าให้ผู้บริโภค

พร้อมมีบริการเสริม เช่น ออกแบบโลโก้ ถ่ายรูปสินค้า ทำแบนเนอร์หน้าร้าน เป็นต้น โดยร้านค้าจะไม่เสียค่าคอมมิชชัน แต่แค่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 2% เมื่อจำหน่ายสินค้าได้และเสียค่าจัดส่งตามน้ำหนักสินค้าและประเภทการจัดส่ง

CloudMall

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชที่ออกแบบมาเพื่อ Smart Farmer ที่สนใจก้าวสู่ตลาด Marketplace หรือคลังสินค้าบนโลกออนไลน์ที่มีเว็บไซต์เป็นสื่อกลางเพื่อจำหน่ายและส่งออกไปยังต่างประเทศ

โดย Cloudmall ให้บริการตั้งแต่ช่วยถ่ายรูปสินค้า เขียน Content ให้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ช่วยทำการตลาดด้วย Influencer มืออาชีพที่จะไลฟ์สดขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม และยังนำสินค้าไปช่วยโปรโมตโพสต์ขายลงแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Amazon eBay Etsy เป็นต้น

โดยผู้สนใจสามารถสมัครเพื่อเปิดร้านจำหน่ายสินค้าได้ฟรีและตั้งราคาขายได้อย่างอิสระ ซึ่งทางแพลตฟอร์มจะบวกค่าบริการต่างๆ เพิ่มเข้าไปจากราคาที่ต้องการขาย และเมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามาทาง Cloudmall จะไปรับสินค้าเพื่อจัดส่งให้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ครบวงจรเลยทีเดียว

eBay

เป็นแพลตฟอร์มขายปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ขึ้นชื่อเรื่องมีสินค้าอย่างหลากหลาย ไม่เว้นแม้กระทั่งสินค้าแปรรูปทางการเกษตร เช่น ชา สมุนไพร เมล็ดกาแฟ เป็นต้น แค่ยังไม่เปิดให้จำหน่ายสินค้าสดที่ยังไม่ผ่านการแปรรูปอย่างผักหรือผลไม้สด

โดยการเปิดร้านใน eBay จะไม่เสียค่าธรรมเนียมสำหรับสินค้าใน 50 ชิ้นแรกที่จำหน่ายได้ต่อเดือน หากจำหน่ายสินค้าได้มากกว่า 50 ชิ้นจะเสียค่าธรรมเนียม 10%

จุดเด่นของการขายสินค้าบน eBay คือ สามารถกำหนดราคาขายแบบคงที่หรือเปิดให้ประมูลราคาสินค้าได้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น และยังสามารถทำการตลาดด้วย Keyword หรือคำที่ใช้ในการค้นหาสินค้าผ่าน Search Engine ใน Google ด้วยการจัดประเภทของสินค้าอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้บริโภคค้นหาสินค้าเจอได้ง่ายมากขึ้น

และยังเพิ่มน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภคด้วยฟีเจอร์ที่เปิดให้ Feedback ความพึงพอใจต่อร้านค้า ดังนั้น ถ้าร้านไหนมี Feedback ในทางที่ดี ร้านนั้นก็จะยิ่งดูน่าเชื่อถือ และมีผู้บริโภคให้ความสนใจมากขึ้น

ที่มา : บทความที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กของ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ เรื่อง “7 แพลตฟอร์ม ส่งออก สำหรับ Smart Farmer Online” (30 มิถานายน 2563)

ขอขอบคุณแหล่งที่มา :

https://www.salika.co/2020/07/07/e-commerce-platform-for-smart-farmer-online/