0
ดร. มนต์ศักดิ์ โซ่เจริญธรรม
https://www.facebook.com/monsaks
0
ผชช. หลายท่าน หลายสำนัก พูดมานานแล้วว่า ประมาณ 70% ของประชากร จะย้ายถิ่นฐานเข้าสู่เมือง โดยน่าจะเกิดภายในปี 2030 (บางค่ายก็บอก 2050)
ส่วนตัวนั่งคิดมานานแล้ว ว่ามันจะจริงหรือไม่ !!
โดยเฉพาะมาเกิดโควิดขึ้นอีก ซึ่งทำให้คนเริ่มเรียนรู้ว่า การอยู่อาศัยในเมืองที่แออัดมันเสี่ยงมาก ในแง่ …
1. การแพร่ของโรคติดต่อ เนื่องจากความแออัด
2. การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ กลับเป็นความเสี่ยง ซึ่งตามตำราแต่เดิมคือ ต้องสร้างระบบขนส่งสาธารณะ และให้ความเจริญ เกิดไปตามแนวราง
3. เมื่อธุรกิจตั้งอยู่ในเมือง การถูก lockdown หรือการปิดอาคาร สำนักงาน ทำให้ธุรกิจดำเนินไปไม่ได้ ซึ่งถ้ามีสำนักงานกระจายออกไปนอกเมือง จะช่วยบรรเทาได้
4. การ work from home ทำให้ไม่จำเป้นต้องเข้ามาอยู่แออัดในเมืองก็ได้
5. การถูกจำกัดให้อยู่แต่ในคอนโดแคบ ๆ ทำให้คนเครียดมาก แต่คนที่มีบ้าน มีพื้นที อยู่ห่างออกไปจากเมือง ค่อยผ่อนคลายกว่า
6. การจ้างงานพนักงานที่อาจอยู่ไกลคนละทวีป ก็ยังได้ ไม่ต้องขอวีซ่า ไม่ต้องเดินทาง ไม่มีเที่ยวบินก็ไม่ซีเรียส ทำงานกันแบบ WFH
7. Google และ Facebook ประกาศนโยบาย WFH ยาวถึงปี 2021 [1]
8. แล้วก็ Facebook กำลังวางแผนจะให้มีนโยบาย WFH แบบถาวรไปเลย [2]
ผมลองเช็คกับ ผปก. อสังหา ทราบว่าบ้านชานเมือง และที่อยู่อาศัยแนวราบ กลับมาทำยอดได้ดี
หรือว่า พวกเราอาจจะต้องปรับฐานคิดกันใหม่ เรื่อง “เมือง”
ทฤษฎี หรือ ตำรา ที่ว่ากันไว้ก่อนหน้านี้ อาจจะต้องมาทบทวนกันใหม่
[1] https://www.siliconrepublic.com/companies/google-facebook-remote-work-until-2021
[2] https://www.nytimes.com/2020/05/21/technology/facebook-remote-work-coronavirus.html
ปล. ขอบคุณภาพจาก สไลด์ของ
รองศาสตราจารย์ ดร. เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์
อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยhttps://edupol.org/eduOrganize/publicDoc/document/Thailand%204.0/01.pdf
ดร. มนต์ศักดิ์ โซ่เจริญธรรม
https://www.facebook.com/monsaks
0