ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยความก้าวหน้าการพัฒนา 5G ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อก้าวสู่เศรษฐกิจสังคมดิจิทัลเต็มรูปแบบ 4 ด้าน คือ 1.) ด้านโครงสร้างพื้นฐาน : จากสัญญาณสู่ข้อมูลกลาง ติดตั้งแล้วเกิน 80% ของพื้นที่ ด้านสัญญาณ ได้ติดตั้ง ท่อ เสา สาย และสัญญาณ โดยร่วมกับ สดช. และ กสทช.ประสานให้เกิดต้นทุนต่ำสุด ด้วยการใช้เสาอัจฉริยะ หรือ Smart pole ร่วมกัน และการลงทุนเสาเพิ่มเพื่อให้เช่า รวมทั้งกำหนดราคาต่ำสุด เพื่อให้สะท้อนความสามารถการแข่งขันของธุรกิจ 2.) ด้านการใช้ประโยชน์ เพิ่มผู้ใช้ 5G ในภาคการผลิต ผลักดันภาคธุรกิจ โรงงานในอีอีซี 10,000 แห่ง โรงแรม 300 แห่ง หน่วยราชการ สถานศึกษา โรงพยาบาล กลุ่ม SMEs ให้มาใช้ 5G พร้อมเริ่มนำร่องใช้ 5G บริเวณสัตหีบ สนามบินอู่ตะเภา นิคมฯมาบตาพุด และบ้านฉาง ผลักดันให้บ้านฉาง ก้าวสู่ต้นแบบชุมชนอนาคต (Smart city) รวมทั้งนำ 5G มาใช้ประโยชน์ในแผนพัฒนาภาคเกษตร เกิดระบบเกษตรอัจฉริยะ (precision farming) และสนับสนุนการใช้ดิจิทัลเพื่อดูแลสุขภาพชุมชน รวมถึงสร้างธุรกิจใหม่จาก 5G 3.) ด้านการพัฒนาบุคลากร สนับสนุนให้ทุกบริษัทที่จะมาลงทุนด้านดิจิทัล ให้เข้ามาร่วมลงทุนการพัฒนาคน โดยเน้นผลิตบุคลากรที่มีทักษะตามความต้องการของเอกชน (Up-Re-New Skill) ตั้งเป้าหมาย 3 ปี (2564 – 2566) รวม 115,282 คน ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 8,392 คน มีแผนในปี 2564 – 2565 จำนวน 62,890 คน และประสานกับบริษัทชั้นนำ เช่น Huawai, HP ผลิตบุคลากรร่วมกันอย่างน้อย 44,000 คน และ 4.) ด้านประชาสัมพันธ์ สร้างการมีส่วนร่วมให้แก่ทุกภาคส่วน ให้เกิดการรับรู้การใช้ประโยชน์จาก 5G และร่วมพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน
แหล่งข้อมูล
https://www.salika.co/2021/03/03/salika-news-vol-62/