“นอร์เวย์” ประเทศแรกของโลกที่ขาย “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” มากกว่า “รถยนต์ใช้น้ำมัน”

Share

Loading

ต้องยอมรับว่า “นอร์เวย์” มีชื่อเสียงอย่างมากเกี่ยวกับตำนานชนเผ่า Viking “นักรบ” ผู้เชี่ยวชาญการยุทธ์ทางทะเล

นอกจากสถานะ “นักรบ” Vikings ยังเป็น “นักบุกเบิก” และ “นักการค้า” อีกด้วยครับ

ในอดีต ชาว Viking ชำนาญการในการใช้เรือในการรบ การทำการค้า และออกสำรวจหาดินแดนใหม่ๆ เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้

เพราะชาว Viking ถือว่าเรือเป็นพาหนะซึ่งสำคัญที่สุดของพวกเขา กองทัพ Viking จึงมีความเกรียงไกรไม่ต่างจากกองทหารของ “อเล็กซานเดอร์มหาราช” ที่ยึดครองยุโรป และไม่ต่างจากทัพทหารของ “เจงกีส ข่าน” ที่บุกตีอาณานิคมทั่วเอเชีย

เพราะ Viking เคยล่องลงมาจนถึงยุโรปใต้ ไม่ว่าจะเป็น สเปน กรีซ และอิตาลี ไปจนถึงแอฟริกาเหนือคือโมร็อกโก

นอกจากนี้ ยังมีการเจรจาติดต่อการค้ากับจักรวรรดิไบแซนไทน์ เปอร์เซีย และอินเดีย อีกทั้ง ยังเป็นผู้ค้นพบไอซ์แลนด์ และยึดครองกรีนแลนด์ กระทั่งเคยเดินเรือไปถึงทวีปอเมริกาเหนือ รวมถึงการแล่นเรือออกไปในมหาสมุทรแอตแลนติกอีกด้วย

ชนเผ่า Viking

ด้วยธรรมชาติของการเป็นนักจู่โจมทางเรือ กองทัพ Viking จึงมีความเข้มแข็ง ดุดัน เป็นอย่างมาก และเป็นชนเผ่าที่ไม่เคยหวั่นเกรงต่อภยันตราย และที่สำคัญที่สุดก็คือ ชนเผ่า Viking ไม่กลัวตาย

กองทัพ Viking จึงมีกิตติศัพท์ว่าเป็นพวกโหดเหี้ยม และได้สมญาว่าเป็นชนชาติที่ทารุณที่สุด อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในด้านการเป็นนักทำลายล้างอีกด้วย

แต่ในฐานะ “นักการค้า” หรือพ่อค้าวาณิชย์ และทักษะทางการปกครอง โดยเฉพาะการบริหารจัดการอาณานิคมที่พวกเขาเข้าตีและยึดครองได้ ชาว Viking ก็มีความเชื่อมั่นในทักษะของพวกเขาในด้านนี้อย่างเต็มเปี่ยม

เป็นที่ทราบกันดีว่า Viking นั้น นับเป็นชนชาติที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีบทบาท และอิทธิพลเป็นอย่างสูง ในด้านการพัฒนาทวีปยุโรปในยุคกลาง

ในปัจจุบัน “นอร์เวย์” ถือเป็นประเทศ “รัฐสวัสดิการ” สมบูรณ์แบบ ที่มีนโยบายเน้นการนำรายได้ของรัฐมาสนับสนุนสาธารณูปโภคภาคประชาชน เพื่อเป็นหลักประกันทางสังคมแก่ประชากรในด้านต่างๆ อาทิ การรักษาพยาบาล การศึกษา บำเหน็จบำนาญ การดูแลผู้พิการ และผู้สูงอายุ เป็นต้น

ลักษณะสำคัญที่สุดของ “นอร์เวย์” ก็คือ การให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศ ผลลัพธ์ก็คือ ทำให้สุภาพสตรีชาว “นอร์เวย์” ได้รับสิทธิในการทำงาน และสิทธิทางด้านสังคมอื่นๆ เช่นเดียวกับสุภาพบุรุษชาว “นอร์เวย์” นั่นเอง

นอกจากนี้ “นอร์เวย์” เป็นประเทศที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ และทรัพยากรทางทะเล โดยมีอุตสาหกรรมหลักคืออุตสาหกรรมประมง อุตสาหกรรมป่าไม้ อุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ อุตสาหกรรมแร่ธาตุ เช่น อะลูมิเนียม สังกะสี ตะกั่ว ทองแดง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมต่อเรือ และอุปกรณ์ด้านการเดินเรือทะเล นอกจากนี้ “นอร์เวย์” ยังมีอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติอีกด้วย

ล่าสุด “นอร์เวย์” สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศศักดาในวงการ “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ด้วยการเปิดเผยสถิติ ว่าประชากร “นอร์เวย์” มีการจับจองเป็นเจ้าของ “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” มากถึง 54.3%

ถือเป็น “ชาติแรกของโลก” ที่ขาย “รถพลังงานไฟฟ้า” มากกว่า “รถใช้น้ำมัน”

เพราะ “สภาข้อมูลการจราจรทางบก” ของ “นอร์เวย์” ระบุว่า จากการสำรวจยอดขายรถยนต์ใน “นอร์เวย์” เมื่อปี ค.ศ. 2020 พบว่า ผู้บริโภคชาว “นอร์เวย์” ได้จับจ่ายใช้สอยควักกระเป๋าซื้อ “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ไปมากถึง 54.3% เพิ่มขึ้นจากปี ค.ศ. 2019 ที่ยอดขายอยู่ที่ 42.4%

พูดอีกแบบก็คือ ยอดขาย “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” นั้น แซงหน้ายอดซื้อ “รถยนต์ใช้น้ำมัน” ไปแล้วเป็นชาติแรกของโลก!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพียงแค่เดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว สำหรับสถิติยอดขาย “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ของ “นอร์เวย์” นั้น พบว่า ยอดขาย “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ของ “นอร์เวย์” นั้น เพิ่มขึ้นสูงถึง 66.7% สูงที่สุด แซงหน้ายอดซื้อ “รถยนต์ใช้น้ำมัน” ซึ่งถือเป็น “สถิติใหม่” ของชาติ และอาจเป็นสถิติโลกอีกด้วย!

กล่าวโดยสรุปก็คือ ยอดขาย “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ของ “นอร์เวย์” นั้น “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ที่ขายดีที่สุดใน “นอร์เวย์” ได้แก่

1 “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ยี่ห้อ Audi รุ่น e-Tron

2 “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ยี่ห้อ Tesla รุ่น Model3

3 “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ยี่ห้อ Volkswagen รุ่น ID3

4 “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ยี่ห้อ Nissan รุ่น Leaf

ท้ายที่สุดนี้ รัฐบาล “นอร์เวย์” ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า จะดำเนินการออกนโยบายขจัดรถยนต์พลังงานน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติออกไปให้หมดประเทศ! ภายในปี ค.ศ. 2025 ด้วยมาตรการหลายประการ

อาทิ การยกเว้นภาษี “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” รวมถึงการอุดหนุนจากภาครัฐให้แก่บริษัทผู้ผลิต หรือนำเข้า “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” นั่นเองครับ!

แหล่งข้อมูล
https://www.salika.co/2021/03/12/norway-electric-vehicles/