- ตรวจสอบกันหน่อยว่าโรคอะไรบ้างไม่ควรขับขี่ยานพาหนะโดยเด็ดขาด
- บางโรคก็แทบจะรู้เลยว่าอยู่ในข่ายต้องห้ามขับรถด้วย เช่น เบาหวานและรับประทานยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วง
- หากเกิดอุบัติเหตุจากอาการเจ็บป่วยด้วยโรคต้องห้าม ประกันภัยที่ทำไว้มีสิทธิ์ปฎิเสธการรับผิดชอบได้นะ
เคยสงสัยไหมทำไมเวลาทำใบขับขี่ ต่อใบขับขี่ ทำไมต้องมีใบรับรองแพทย์ คำตอบง่ายๆ ก็เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินความสามารถในการบังคับยานพาหนะว่าปลอดภัยสำหรับตัวเองและเพื่อนๆ บนท้องถนนตามที่แพทยสภากำหนดหรือไม่ โดยจากเดิมกรมการขนส่งทางบกได้กำหนดโรคต้องห้ามในการขับขี่ 5 โรคด้วยคือ โรคเท้าช้าง วัณโรค (ระดับแพร่กระจาย) โรคเรื้อน โรคพิษสุราเรื้อรัง และผู้ติดสารเสพติด ซึ่งในปัจจุบันกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้เพิ่มโรคต้องห้ามขับขี่มาอีก 9 โรค ดังต่อไปนี้
1 โรคลมชัก
เป็นโรคที่เกิดความผิดปกติจากระบบประสาทในสมอง หากเจอการกระตุ้นโดยความเครียดหรือปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ก็ทำให้เกิดอาการชัก แสดงอาการเกร็ง กระตุก ไม่รู้สึกตัว และอาจไม่มีสัญญาณบอกเหตุว่าจะเกิดอาการ
2 โรคเกี่ยวกับสายตา
ในที่นี้อาจรวมถึงผู้ที่เป็นต้อกระจก ต้อหิน จอประสาทตาเสื่อม ทำให้มุมมองสายตาแคบ มองไฟจราจรไม่ชัดเจน ซึ่งล้วนมีผลกับการบังคับยานพาหนะทั้งสิ้น
3 โรคทางสมองและระบบประสาท
อาจมีอาการหลงลืม จดจำเส้นทางไม่ได้ จนรบกวนการตัดสินใจในการบังคับรถยนต์ได้
4 โรคหัวใจ
หากผู้ขับขี่เจอภาวะเครียด กดดันจากการขับรถ หรือตกใจกับสถานการณ์ตรงหน้า อาจมีอาการแน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก หรือรุนแรงถึงขั้นหัวใจวายเฉียบพลัน
5 โรคเบาหวาน (ระยะควบคุมไม่ได้)
แม้จะดูไม่ได้ร้ายแรงเท่าไรนัก แต่หากปริมาณน้ำตาลตกขณะขับขี่ ก็อาจเกิดอาการหน้ามืด เป็นลม
6 โรคหลอดเลือดสมอง
ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้การทำงานของสมองหยุดชะงัก ซึ่งเป็นโรคที่หาทางป้องกันไม่ได้ เพียงแต่สังเกตอาการ ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด วิงเวียน แขนขาอ่อนแรง หากขับรถอยู่ควรหาที่จอดโดยทันที
7 โรคพาร์กินสัน
ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีอาการสั่นในขณะที่อยู่นิ่งๆ และระบบประสาทจะช้า ทำให้ตัดสินใจช้าลงไปด้วย
8 ข้ออักเสบ ไขข้อเสื่อม
ขยับทีกระดูก ข้อต่อจะปวดร้าวระบม ใช้ร่างกายได้ไม่ถนัด ทำให้ความสามารถในการขับขี่น้อย หรือบังคับอวัยวะได้ไม่ทันกับสถานการณ์
9 รับประทานยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม
ประมาทไม่ได้เลยนะครับ เพราะการจราจรในปัจจุบัน รถติดเป็นเรื่องปกติ เจอแอร์เย็น เพลงฟังสบาย จากรอรถติดไฟแดงแป๊บๆ จะกลายเป็นโงกศีรษะหลับไปเฉยๆ
เป็นโรคร้ายแรง ประกันภัยคุ้มครองไหม
คำตอบคือมีโอกาสที่ประกันภัยรวมถึง พ.ร.บ. (การประกันภัยภาคบังคับ) มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบ ไม่จ่ายค่าเสียหายให้แต่อย่างใด หากผู้ขับขี่ก่ออุบัติเหตุอันมีสาเหตุจากโรคที่ได้กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด
นอกจากตัวเราจะอันตรายแล้ว ยังอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นด้วย ดังนั้นผู้ขับรถจึงควรมีสุขภาพที่เหมาะสมในการบังคับยวดยานพาหนะให้ปลอดภัย หากวันใดมีอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว ก็ควรพักผ่อนหรือเลือกโดยสารรถสาธารณะเป็นดีที่สุด
แหล่งข้อมูล