แชร์เทคนิคเชิงบวกจากผู้เชี่ยวชาญ ให้ผู้ปกครองปรับใช้รับมือยุคเรียนออนไลน์เต็มขั้น

Share

Loading

ตราบใดที่เหรียญยังมีสองด้าน ทุกวิกฤตก็มี 2 ด้านเช่นกัน เพราะวิกฤตโควิด-19 นี้เองไม่ใช่หรือ ที่ทำให้หลายครอบครัวได้มีเวลาอยู่บ้านร่วมกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่พ่อ แม่ มีหน้าที่ต้องไปทำงานนอกบ้าน หลังจากส่งลูกไปโรงเรียน จะมีเวลาได้เจอกันก็ช่วงเย็นย่ำไปแล้ว แต่ในวันที่ “วิกฤตโควิด-19” มาเยือน พ่อ แม่ พี่ น้อง ต่างต้องทำงานอยู่บ้าน ยิ่งคนเป็น พ่อ แม่ นอกจากต้องทำงานหนักไม่แพ้ตอนทำงานอยู่ที่ออฟฟิศแล้ว บางรายยังต้องมีความรับผิดชอบเพิ่มในการดูแลลูกใน ยุคเรียนออนไลน์ ด้วย

โจทย์ที่ท้าทายของครอบครัวในยุคนี้จึงเป็นการปรับทั้งเวลาและการปรับตัวกับรูปแบบการใช้ชีวิตในสถานการณ์ที่ไม่ปกติเช่นนี้ ให้สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นมากที่สุด โดยเฉพาะครอบครัวที่มีบุตรหลานอยู่ในวัยเรียน ที่ต้องปรับเปลี่ยนตารางชีวิตรับ ยุคเรียนออนไลน์ เต็มขั้น เมื่อวิกฤตโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย

การทำบ้านให้เป็นทั้งบ้านและโรงเรียนในเวลาเดียวกัน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ปกครองยุคนี้ แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางออกที่ดีสำหรับสถานการณ์นี้เสมอไป เพราะล่าสุดได้มีการจัด งานเสวนาออนไลน์ Net PAMA Live Opening  ที่จะช่วยตอบทุกปัญหา และช่วยให้การการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ ผู้ปกครองใน ยุคเรียนออนไลน์ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ง่ายขึ้น

รวมพลังผู้เชี่ยวชาญ แชร์เทคนิคเชิงบวกให้ผู้ปกครอง รับมือ ยุคเรียนออนไลน์ อย่างได้ผล

แพลตฟอร์ม Net PAMA คือ หลักสูตรออนไลน์ที่สร้างขึ้นมา เพื่อเปิดโอกาสให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง เรียนรู้เทคนิคในการปรับพฤติกรรมเด็กใน ยุคเรียนออนไลน์ โดยใช้เทคนิคเชิงบวก ซึ่งหลักสูตรนี้เกิดขึ้นโดยความร่วมมือของทีมจิตแพทย์เด็ก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ทีมจิตแพทย์เด็ก กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลอื่นๆ อีกหลากแห่ง โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก สสส.

จุดเริ่มต้นของ Net PAMA หรือชื่อไทย “เน็ตป๊าม๊า” คือ การมองเห็นปัญหาและความต้องการของผู้ปกครองที่พบปัญหาเรื่องการเลี้ยงลูก แต่ไม่สามารถเข้าถึงช่องทางการปรึกษา หรือพบผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็กได้สะดวก เน็ตป๊าม๊าจึงเป็นเสมือนตัวช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง ที่จะเข้ามาเรียนรู้เทคนิคการเลี้ยงลูกในเชิงบวก และเข้าถึงความรู้ด้านจิตวิทยาเด็กได้สะดวกมากขึ้น เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

หลักสูตรออนไลน์นี้แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ หลักสูตรคอร์สเร่งรัด และหลักสูตรคอร์สจัดเต็ม โดยหลักสูตรคอร์สเร่งรัดนั้น จะเหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ไม่ค่อยมีเวลา และมีพื้นฐานในด้านจิตวิทยาการเลี้ยงลูกอยู่บ้างแล้ว เจาะประเด็นปัญหาเฉพาะจุด และแก้ปัญหาเฉพาะประเด็นที่ผู้ปกครองต้องการอย่างตรงจุด

ส่วนคอร์สจัดเต็ม จะสอนวิธีการปรับพฤติกรรมเด็กเต็มรูปแบบ ครอบคลุมทุกด้านที่จำเป็นในการเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยพื้นฐาน วิธีการสื่อสาร เทคนิคการชม การให้รางวัล การทำตารางกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น

โดยรูปแบบการเรียนรู้นี้จะเรียนจากคลิปวิดีโอ และมีเกมหรือกิจกรรมง่ายๆ ให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ทดลองทำ เมื่อเรียนรู้จนจบหลักสูตร จะได้รับประกาศนียบัตร นอกจากนี้ ระหว่างเรียนพ่อแม่ผู้ปกครอง ยังสามารถสะสมแต้ม เพื่อนำไปใช้เข้าเว็บบอร์ด เพื่อพูดคุย ปรึกษาปัญหากับนักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์เด็กทางออนไลน์ได้อีกด้วย

จิตแพทย์เด็ก เน้นย้ำ การยอมรับและทำความเข้าใจของผู้ปกครอง คือ ใบเบิกทางสู่ความสำเร็จใน ยุคเรียนออนไลน์

รศ.นพ.ชาญวิทย์ พรนภดล จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า

“ปัญหาเรื่องการเรียนออนไลน์นั้น ขึ้นอยู่กับมุมมองเป็นสำคัญ ซึ่งการปรับมุมมองนั้นจะช่วยให้ทุกฝ่ายเริ่มต้นปรับตัวได้ง่ายขึ้น โดยใช้ 2 วิธี คือ การยอมรับ และความเข้าใจ-ความเห็นอกเห็นใจ”

การยอมรับ คือ พ่อแม่ ผู้ปกครอง คุณครู รวมทั้งตัวเด็กๆ เองจะต้องยอมรับถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนไป จึงจะเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ง่ายขึ้น

ความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ การเรียนออนไลน์ไม่ใช่เรื่องสนุก แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากเงื่อนไข ความจำเป็น ทุกฝ่ายจะต้องมีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ทำความเข้าใจกันให้มาก เพราะไม่มีใครเคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ครู หรือพ่อแม่ผู้ปกครอง ทุกฝ่ายต่างต้องปรับตัว และได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน ดังนั้น ควรมีความเข้าใจซึ่งกันและกันก่อนในเบื้องต้น ก่อนจะมองเรื่องผลลัพธ์ หรือหลักสูตรการเรียนการสอนต่อไป

เตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมเวลา คาถาสร้างสุขใน ยุคเรียนออนไลน์

ต่อมา ในงานเสวนา ได้มีการตอบคำถามในประเด็นที่หลายคนอยากรู้ด้วยว่าจะทำอย่างไร “การเรียนออนไลน์” ถึงจะมีความสุขมากขึ้น ผศ.ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร หรือ “ครูหม่อม” ผู้เชี่ยวชาญด้าน EF และการเลี้ยงลูกเชิงบวก สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล อธิบายเพื่อบอกถึง เทคนิคเชิงบวก ที่นำสู๋ความสุขในการเรียนออนไลน์ ว่า

“ความทุกข์นั้นมีอยู่ 2 แบบ คือ ทุกข์กาย กับทุกข์ใจ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การทำใจยอมรับ และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด โดยพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถใช้หลัก 3 เตรียม เข้ามาช่วยให้การเรียนออนไลน์ของลูกมีความสุขมากขึ้นได้ คือ เตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมเวลา”

  • เตรียมเวลา

ไม่ว่าพ่อแม่ ผู้ปกครองจะมีลูกเล็กหรือลูกโต การมีส่วนร่วมกันในครอบครัวถือเป็นหัวใจสำคัญ ดังนั้น การเตรียมเวลาด้วยการจัดเวลาร่วมกัน เช่น พรุ่งนี้ลูกมีเรียนออนไลน์เวลาไหนเรียน ก่อนจะเริ่มเรียนทำอะไร เสร็จแล้วจะทำอะไร พ่อแม่จะอยู่ตรงไหนเวลาที่ลูกเรียนออนไลน์ เป็นต้น

ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกได้รู้ว่าช่วงเวลานี้ต้องทำอะไร และช่วงเวลานี้พ่อแม่อยู่ที่ไหน ซึ่งการที่ลูกรู้ว่าจะสามารถไปหาพ่อแม่ได้ที่ไหนในขณะเรียนออนไลน์เป็นการสร้างเสริมความมั่นคงทางจิตใจให้กับลูก ถ้าหากเป็นไปได้พ่อแม่ที่มีลูกเล็กควรอยู่กับลูกระหว่างที่ลูกเรียนออนไลน์ด้วยไม่เพียงเพื่อความมั่นคงทางจิตใจแต่เพื่อความปลอดภัยของลูกอีกด้วย

  • เตรียมตัว

การให้เด็กกินให้อิ่ม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายพร้อมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนออนไลน์

  • เตรียมใจ

การให้ลูกมีส่วนร่วมในการจัดตารางเวลา นอกจากจะเพิ่มความมั่นคงทางจิตใจให้กับลูกแล้ว ยังช่วยให้ลูกมีสมาธิจดจ่อกับการเรียนมากขึ้นอีกด้วย

พญ.เบญจพร ตันตสูติ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เจ้าของเพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของการสร้างสมาธิให้กับลูกว่า

“การจัดสิ่งแวดล้อม สามารถช่วยให้เด็กมีสมาธิได้พอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่า ไม่สามารถที่จะทำให้เด็กมีสมาธิได้เทียบเท่ากับการเรียนท่ามกลางสภาพแวดล้อมในห้องเรียน หรือสังคมที่โรงเรียนได้ แต่ถึงอย่างไร ก็ควรจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ไม่มีเสียงรบกวน พ่อแม่ผู้ปกครองควรทำการตกลงกับลูก พยายามกำจัดปัจจัยต่างๆ ที่จะเป็นการรบกวนสมาธิในการเรียนออนไลน์ของลูกออกไปให้ได้มากที่สุด”

“การเรียนออนไลน์” หากเรามองให้เป็นปัญหา มันก็จะกลายเป็นปัญหาที่แก้ได้ยาก แต่หากเรามองว่าเป็นโอกาส มันก็จะกลายเป็นช่วงเวลาคุณภาพในการใช้เวลาร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว เป็นโอกาสในการเรียนรู้ และทำความเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น

“รวมทั้งเป็นโอกาสของพ่อแม่ในการได้ดูแล อบรมสั่งสอน และเห็นพัฒนาการการเติบโตของลูกอย่างใกล้ชิด แต่ด้วยข้อจำกัดต่างๆ อาจจะทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครองหลายครอบครัว ไม่สามารถใช้เวลากับลูกได้อย่างเต็มที่ ในหนึ่งวัน ขอเพียงพ่อแม่ ผู้ปกครองลองจัดสรรเวลามาใช้กับลูกบ้าง แม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างความรัก ความเข้าใจ และความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นของสมาชิกในครอบครัวแล้ว”

“เพราะเชื่อว่า สำหรับคนเป็นพ่อแม่แล้ว ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นของขวัญ หรือรางวัลชีวิตที่ดีไปกว่าการเห็นลูกๆ ได้เติบโตอย่างมีความสุข”

ระบบการเรียนรู้ออนไลน์ สร้างตัวช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครองยุคใหม่ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้ง่าย ทุกที่ ทุกเวลา Net PAMA ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของบุตรหลาน รู้วิธีสื่อสารอย่างสร้างสรรค์กับลูก และใช้เทคนิคการเลี้ยงลูกเชิงบวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับสถาบันครอบครัว หนุนให้เด็กๆ ได้เติบโตอย่างสร้างสรรค์ ใช้ศักยภาพการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ และมีอิสระ

แหล่งข้อมูล

https://www.salika.co/2021/08/25/net-pama-online-program-for-online-learning-era/