นักวิจัยจีนสร้างเครื่องจักรที่สามารถทำงานได้คล้ายกับสิ่งที่เราเคยเห็นในหนังเรื่อง “RoboCop” และ “Minority Report”
อาชญากรรมที่พบบ่อยที่สุด 8 ประเภทในเซี่ยงไฮ้ คือ การฉ้อโกงบัตรเครดิต การพนัน การขับรถโดยประมาท การทำร้ายร่างกายโดยเจตนา การขัดขวางการทำงานเจ้าหน้าที่ การโจรกรรม การฉ้อโกง และการคัดค้านทางการเมือง
AI จีนถูกฝึกฝนให้เรียนรู้จากฐานข้อมูลเก่าของคดี 8 ประเภทนี้ ซึ่งเป็นการทำงานในการตั้งข้อหาของอัยการจากคดีเก่ามากกว่า 17,000 คดีซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปี 2015 ถึง 2020
จากการทดสอบวัดผลประสิทธิภาพ AI พบว่า มันใช้ข้อมูลรายละเอียดของคดีอาญาที่น่าสงสัย และสามารถฟ้องผู้ต้องหาได้อย่างแม่นยำมากกว่า 97%
เทคโนโลยี AI ที่นำมาช่วยงานด้านความยุติธรรม จะช่วยลดงานที่ล้นมือของอัยการ จะได้เอาเวลาไปใช้กับงานที่เป็นคดียากๆ อัยการ AI จะทำหน้าที่ช่วยประเมินความแน่นหนาของหลักฐาน เป็นเงื่อนไขในการจับกุมอาชญากร
AI บอกได้ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นอันตรายต่อสาธารณชนในวงกว้างหรือไม่?
วันนี้ยังเป็น AI ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอัยการซึ่งอยู่ในขบวนการตัดสินใจในระดับหนึ่งเท่านั้น จีนยังไม่ได้เอา AI มาทำงานทุกอย่างของอัยการ
ในปัจจุบัน แอปพลิเคชั่น AI ที่เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการบังคับใช้กฎหมาย มีการใช้เพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลายทั่วโลก อัยการบางส่วนในเยอรมัน ได้ใช้ AI ช่วยงานบางอย่างเช่น ระบบจดจำใบหน้า นิติเวชดิจิทัล มันช่วยทำให้ขบวนการทำงานต่างๆในคดีรวดเร็วขึ้น และถูกต้องมากขึ้น
ประเทศจีน นำ AI มาช่วยงานของอัยการตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นที่ AI มีการใช้อย่างแพร่หลาย และเริ่มมีประสิทธิภาพน่าเชื่อถือ วันนี้มีอัยการจีนจำนวนมากใช้อัยการ AI ที่เรียกว่า System 206
การฝึกฝน AI ของนักวิจัยจีนจากคดีเก่าในเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ จะยิ่งทำให้อัยการ AI มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในอนาคตเมื่อมันได้รับการฝึกฝนในคดีทุกประเภท และมีข้อมูลให้มันเรียนรู้มากขึ้น มันจะทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบในขบวนการยุติธรรม
ประเทศไหนเอา AI มาใช้ในขบวนการยุติธรรม ผู้มีอำนาจก็จะไม่ถูกครหาเรื่อง ไร้ความยุติธรรม!!!
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/698124263678932/posts/2125519127606098/