5 เทรนด์ยอดนิยมในระบบวิดีโอการเฝ้าระวังภัยของ Hanwha Techwin ปี 2022

Share

Loading

Hanwha Techwin ประกาศ ‘5 เทรนด์ยอดนิยมในระบบวิดีโอการเฝ้าระวังภัยปี 2022’

มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีล้ำสมัยตั้งแต่ระบบ AI, edge-computing ไปจนถึงระบบ cloud

วงการอุตสาหกรรมระบบการรักษาความปลอดภัยและการเฝ้าระวังภัยคงไม่สามารถมองไปยังปี 2022 ข้างหน้าได้หากไม่ตระหนักถึงความสำคัญของปี 2021 ซึ่งเป็นปีที่เปลี่ยนแปลงทุกแง่มุมของชีวิตประจำวัน ตลอดจนวิธีการทำงาน เข้าสังคม สื่อสาร และร่วมมือกันของเรา เมื่อโรคระบาดใหญ่เกิดขึ้นทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้บริษัทต่างๆ ในทุกอุตสาหกรรมต้องประเมินธุรกิจของตนใหม่ในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่วิธีที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า วิธีการบริหารกำลังคน ไปจนถึงวิธีการออกสู่ตลาด

เค้าโครงธุรกิจใหม่นี้ยังได้สร้างความท้าทายรูปแบบใหม่ให้กับระบบความปลอดภัยและการเฝ้าระวังภัยอีกด้วย ทั้งพนักงาน ลูกค้า และคู่ค้านั้นกำลังทำงานมากขึ้นในสถานที่ห่างไกล การแบ่งปันและทำงานร่วมกันผ่านเครือข่ายออนไลน์ที่แตกต่างกันนั้นทำให้ข้อมูลต่างๆ เสี่ยงต่อการบุกรุก ซึ่งไซต์ต่างๆ กำลังได้รับการตรวจสอบจากระยะไกล และแนวทางเกี่ยวกับด้านสาธารณสุขและความปลอดภัยฉบับใหม่ก็กำลังเข้าควบคุมการดำเนินธุรกิจเช่นกัน

ทาง Hanwha Techwin ได้ตอบสนองต่อความท้าทายเหล่านี้ด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่ๆ ที่ผสมผสานเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระบบคลาวด์และระบบอัตโนมัติ ไปถึงระบบปัญญาประดิษฐ์/การเรียนรู้เชิงลึก ตลอดจนบริการและกระบวนการที่เชื่อมต่อกันมากมาย ซึ่งเทรนด์ที่จะดำเนินต่อไปในปี 2022 นั้นจะเป็นดังต่อไปนี้:

1. AI edge computing/analytics: การเพิ่มจำนวนข้อมูลและการวิเคราะห์เพื่อช่วยในการตัดสินใจในธุรกิจด้านความปลอดภัย

โซลูชั่นการเฝ้าระวังภัยและความปลอดภัยนั้นจะรวมเอาการวิเคราะห์แบบออนบอร์ดเข้าไว้ในระบบมากขึ้น และส่งข้อมูลที่ช่วยในการทำงานของระบบการป้องกันและตรวจสอบอัจฉริยะ บทบาทของการวิเคราะห์แบบออนบอร์ดจะยังคงขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในปี 2022 เป็นต้นไป ซึ่งลูกค้านั้นได้รวมระบบ Edge Computing และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบและค้นหา

รายงานทางด้านอุตสาหกรรมได้คาดการณ์ว่าโครงสร้างพื้นฐานของระบบ Edge Computing ทั่วโลกนั้นจะมีมูลค่ามากกว่า 8 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 การใช้ Edge AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการวิเคราะห์ตามอัลกอริทึมการเรียนรู้เชิงลึกที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของแอปพลิเคชัน “การเฝ้าระวังภัยอัจฉริยะ” ต่างๆ ซึ่งรวมถึงการตรวจจับและจำแนกประเภทวัตถุ และการรวบรวมข้อมูลจำเพาะต่างๆ ในรูปแบบของข้อมูลเมตา ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยลดเวลาในการตอบสนองและลดการใช้แบนด์วิดท์ของระบบ ช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลและติดตามสถานการณ์ได้แบบเรียลไทม์

ซึ่งประโยชน์ต่างๆ ของระบบ Edge Computing นี้จะสามารถแสดงออกมาได้ด้วยความสามารถหลักของ SoC เท่านั้น ตัวแปลงสัญญาณที่ฝังอยู่ใน SoC นั้นเป็นส่วนสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพของภาพ ในขณะที่เครื่อง NPU ภายใน SoC พร้อมอัลกอริทึม AI ช่วยให้สามารถทำการวิเคราะห์ด้วยระบบ AI ในตัวเครื่องได้ และเนื่องจากทรัพยากรในตัวเครื่องที่ใช้งานได้อย่างจำกัด อัลกอริทึม AI ของ SOTA (State-of-the-art) จึงมีความสำคัญเพิ่มขึ้น การเพิ่มประสิทธิภาพของทรัพยากรให้ถึงขีดสุดนั้นนับเป็นความท้าทายอันดับต้นๆ ของระบบ Edge Computing ทำให้การเพิ่มประสิทธิภาพของอัลกอริทึม AI เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อรับมือกับความท้าทาย วิธีการใหม่ๆ ของการเรียนรู้ของระบบ เช่น Transfer Learning ได้ถูกนำมาแทนที่อัลกอริทึมชั้นนำในปัจจุบัน การก้าวไปข้างหน้าของเทรนด์และการหลอมรวมความสามารถต่างๆ นี้จะเป็นกุญแจสำคัญสู่การเป็นระบบ Edge Computing ที่ไม่มีใครเทียบได้

ทั้งระบบ AI และ Edge Computing จะยังคงปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของระบบเครือข่ายวิดีโอเฝ้าระวังภัยอย่างต่อเนื่อง โดยใช้การวิเคราะห์รูปแบบต่างๆ (วัตถุ การเดินเตร็ดเตร่ การตรวจจับด้วยเส้นเสมือนและการตรวจจับแบบตัดขวางพื้นที่) เพื่อการตรวจตราได้ในทุกพื้นที่หรือสถานการณ์ ด้วยระบบ AI และ Edge Computing ที่กล้องเปิดใช้งานนี้ ผู้ใช้สามารถใช้งาน “การตรวจจับล่วงหน้า” และพึ่งพาการตรวจตราเชิงตอบสนองให้น้อยลง ทำให้มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

โซลูชั่นของ Hanwha Techwin:

กล้อง AI Wisenet รุ่น P และ X ซีรีส์ ใช้เทคโนโลยี AI และระบบการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อทำการตรวจจับเฉพาะข้อมูลที่ผู้ใช้กำหนด สำหรับการค้นหาทางนิติเวชที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น AI และอัลกอริทึมการเรียนรู้เชิงลึกนั้นจะเพิกเฉยต่อการเคลื่อนไหวของวัตถุที่ไม่ต้องการ เช่น เงา สัตว์ หรือต้นไม้ที่ไหวเอน อันจะช่วยลดการแจ้งเตือนที่ผิดพลาดได้อย่างมาก

บริษัท Hanwha Techwin นั้นได้ลงทุนในการพัฒนา AI SoC เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของระบบ AI edge computing อย่างต่อเนื่อง

2. ระบบเฝ้าระวังภัยแบบวิชั่นที่บูรณาการเข้ากับเทคโนโลยี AI

ระบบเครือข่ายวิดีโอเฝ้าระวังภัยกำลังก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ จากอุปกรณ์ตรวจสอบอย่างง่ายไปจนถึงโซลูชั่นที่ซับซ้อนซึ่งสามารถใช้ได้ในทุกภาคอุตสาหกรรมชั้นสูงและภาคตลาด สิ่งที่เป็นแรงผลักดันก็คือเทคโนโลยี AI ที่ผสานเข้ากับระบบได้ทุกระดับ และมีแนวโน้มที่คาดว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างไร้ขีดจำกัด

นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมคาดการณ์ว่าตลาดความปลอดภัยและการเฝ้าระวังภัยที่ใช้ AI ทั่วโลกจะสูงถึง 4.46 พันล้าน (USD) ในปี 2023 โดยเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศทั้งหมดกำลังปรับใช้โซลูชั่น AI วิชั่นขั้นสูงโดยใช้กล้อง AI เป็นวิชั่นเซ็นเซอร์

ข้อมูลที่สร้างจากโซลูชั่น AI วิชั่นโดยใช้กล้อง AI เป็นวิชั่นเซ็นเซอร์นั้นจะสร้างข่าวกรองทางธุรกิจที่มีความหมายเพื่อช่วยให้องค์กรมีความเข้าใจเกี่ยวกับลูกค้าและการดำเนินงานของพวกเขาดีขึ้น กล้องถ่ายภาพความร้อนและตรวจจับอุณหภูมิของร่างกายที่ทางเข้าพื้นที่สาธารณะและบริเวณล็อบบี้นั้นใช้อัลกอริทึม AI แบบ edge-based เพื่อเลี่ยงแหล่งความร้อนที่ไม่ใช่มนุษย์ และลดความถี่ของการเตือนที่ผิดพลาด โซลูชั่นบนคลาวด์ใช้อัลกอริทึมการนับคนเพื่อช่วยให้เจ้าของร้านประเมินการขายหรือการวางกลยุทธ์ในการออกแบบร้าน หรือการทำแผนที่ความร้อนเพื่อวัดและหลีกเลี่ยงขั้นตอนการชำระเงินที่ยาวเหยียดเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งระบบการทำงานนี้สามารถนำไปใช้กับระบบการจราจรหรือระบบที่จอดรถอัจฉริยะ การขนส่งและการกระจายสินค้า หรือการตรวจสอบพื้นที่ที่สำคัญในระบบการดูแลสุขภาพได้เช่นกัน

ธุรกิจต่างๆ สามารถทำให้กลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยเป็นไปโดยอัตโนมัติ ด้วยการวางแผนการตอบสนองที่เหมาะสมที่พร้อมจะปรับใช้งาน

โซลูชั่นของ Hanwha Techwin:

ด้วยระบบการวิเคราะห์วิดีโอ AI แบบ edge-based ที่เข้มแข็ง Hanwha Techwin ได้ออกโซลูชั่น AI ใหม่เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆมากมาย เช่น โซลูชั่น COVID-19 โซลูชั่นการจัดการจราจรอัจฉริยะ และโซลูชั่นการค้าปลีก ซึ่งทั้งหมดนี่ใช้ระบบการวิเคราะห์วิดีโอ AI แบบ edge-based เพื่อความแม่นยำที่มากขึ้น

Hanwha Techwin จะยังคงตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการขยายโครงการเพื่อนำเสนอโซลูชั่น AI ที่เหมาะสมกับลูกค้าต่อไป

3. โมเดลธุรกิจ “As a Service”

ระบบการเฝ้าระวังภัย as a Service, ระบบคลาวด์ as a Service, ระบบ Access Control as a Service – เหล่านี้เป็นข้อกำหนดทั้งหมดที่มักจะได้ยินกันทั่วไปในอุตสาหกรรมการรักษาความปลอดภัยและการเฝ้าระวังภัย แต่ความหมายที่แท้จริงคืออะไรและประโยชน์ของโมเดลธุรกิจ “as a Service” คืออะไร?

ด้วยการวิวัฒนาการและพัฒนาการของบริการบนระบบคลาวด์ ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดปัจจุบันจึงสามารถผันตัวเป็นผู้ให้บริการ “โซลูชั่น as a Service” ได้แล้ว บริษัทกล้องวงจรปิดสามารถให้บริการโซลูชั่นแก่ลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มบนคลาวด์ และขยายโมเดลนี้ไปยังทุกพื้นที่ของการเฝ้าระวังภัย

ตลาดสำหรับบริการแอพพลิเคชั่นระบบคลาวด์สาธารณะทั่วโลกนั้นคาดว่าจะมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในปี 2022 บริษัทต่างๆ สามารถรับรู้ถึงประโยชน์มากมายจากการนำแอพพลิเคชั่น โครงสร้างพื้นฐาน และกระบวนการทางธุรกิจมารวมกันในรูปแพ็คเกจ “as a service” (aaS) ช่วยให้พวกเขาสามารถตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ และเพิ่มประโยชน์สูงสุดจากการวิเคราะห์ขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานผ่านข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่า ซึ่งการรวมกันทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ไม่เหมือนใคร

เมื่อใช้โมเดล aaS องค์กรจะสามารถปรับแต่งโซลูชั่นให้ตรงตามความต้องการมากขึ้น แทนที่จะพึ่งพาข้อเสนอที่หาได้ทั่วไป แนวทาง aaS นั้นจะให้ความสามารถในการปรับขนาดและความคุ้มค่าของระบบ ลดรายจ่ายด้านทุนที่บริษัทต้องจ่ายและช่วยให้พวกเขาไปสู่กรอบการดำเนินงานด้านค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยบริการที่มักจะให้เป็นบริการเสริม

การใช้หลักการ aaS กับระบบวิดีโอการเฝ้าระวังภัย ซึ่งส่งผลให้ VSaaS สามารถเปิดใช้งานการบันทึกบนคลาวด์ได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ในสถานที่และช่วยให้องค์กรสามารถเข้าใช้งานระบบได้อย่างรวดเร็วโดยปราศจากการกำหนดค่าเครือข่ายที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน กล้องและอุปกรณ์ทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้จากส่วนกลาง และกระบวนการเครือข่ายและระบบจำนวนมากสามารถดำเนินงานแบบอัตโนมัติได้

โซลูชั่นของ Hanwha Techwin:

Hanwha Techwin ยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับโมเดล ‘As a Service’ โดยลงทุนในแพลตฟอร์มและการบริการบนคลาวด์ นำเสนอบริการการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ การวิเคราะห์ VMS การจัดการอุปกรณ์ การออกแบบ/การติดตั้ง และอื่นๆ Hanwha Techwin จะกลับมาเป็นผู้นำในด้าน ‘โซลูชั่น as A Service’ บนคลาวด์อีกครั้ง

ด้วยความสำเร็จของ Wisenet SKY ที่เพิ่งเปิดตัวในอเมริกาเหนือ บริษัทกำลังวางแผนที่จะเปิดตัว Wisenet Toolbox Cloud ให้ลูกค้าและโดยเฉพาะผู้วางระบบ/ผู้ออกแบบ/ผู้ติดตั้งระบบ ให้สามารถออกแบบระบบกล้องวงจรปิดด้วย Wisenet Portal เพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดการอุปกรณ์ต่างๆ ได้ในแพลตฟอร์มเดียว

4. การใช้เทคโนโลยีการเฝ้าระวังภัยอย่างรับผิดชอบและมีจริยธรรม

เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น ความสามารถของอาชญากรไซเบอร์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน มีข้อกังวลด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากองค์กรต่างๆ ได้นำระบบคลาวด์รูปแบบใหม่ๆ มาใช้ ในขณะที่พยายามรักษาความไว้วางใจของลูกค้าและพนักงาน ซึ่งผู้ปฏิบัติงานจากระยะไกลที่เพิ่มจำนวนขึ้นนั้น ยังสามารถใช้ระบบคลาวด์ในการจัดการต้นทุน เมื่อให้พนักงานมีความยืดหยุ่นในการทำงานจากระยะไกล แต่ยังคงมีความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล สินค้า หรือบริการที่พวกเขาต้องการในการทำงาน

การใช้เทคโนโลยีเช่นกล้องวิดีโอที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในเชิงพาณิชย์และการเฝ้าระวังภัยนั้นแม้จะมีประโยชน์มากมาย ทว่า มันยังทำให้เกิดความกังวลมากมายเกี่ยวกับการละเมิดความเป็นส่วนตัวและการโจมตีทางไซเบอร์ อย่างเช่น การใช้ข้อมูลไบโอเมตริกซ์สำหรับการควบคุมการเข้าใช้งานที่มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นส่วนตัวอย่างร้ายแรง องค์กรระหว่างประเทศ เช่น ระเบียบ General Data Protection Regulation ของ EU (GDPR) กฎ National Defence Authorization Act (NDAA) และกฎระเบียบอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน ล้วนมีข้อกำหนดเฉพาะและเข้มงวดสำหรับการปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัว และผู้ผลิตที่เข้าประกวดราคาในสัญญาบางประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาครัฐหรือที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ จะต้องบังคับใช้การปฏิบัติตามข้อกำหนดในการปฏิบัติงานและสายผลิตภัณฑ์ของตน หากต้องการจะได้รับโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ

โซลูชั่นของ Hanwha Techwin:

Hanwha Techwin นั้นเตรียมเทคโนโลยีปิดบังความเป็นส่วนตัวซึ่งใช้เทคโนโลยีการตรวจจับวัตถุแบบ AI ซึ่งจะช่วยในการปิดบังวัตถุที่มีความเป็นส่วนตัว เช่น ใบหน้ามนุษย์และป้ายทะเบียนในการดูการถ่ายทอดภาพ ที่ช่วยขจัดความกังวลเกี่ยวกับการปกป้องความเป็นส่วนตัว

นโยบายความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Hanwha Techwin นั้นเริ่มต้นจากจุดเริ่มต้นของการออกแบบผลิตภัณฑ์และดำเนินต่อไปในแต่ละขั้นตอนของการพัฒนาและกระบวนการผลิต “ความปลอดภัยคือค่าเริ่มต้น” – ตามหลักการของ Cyber ​​Security Center ของสหราชอาณาจักร – หมายความว่าการตั้งค่าที่พร้อมใช้งานทันทีของกล้องคือการตั้งค่าที่แนะนำให้ใช้ นโยบายความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัทเป็นไปตามมาตรฐาน UL Cyber ​​Assurance Program (CAP) ที่เข้มงวด และกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้อง AI ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงกล้อง AI Wisenet P ซีรีส์ และกล้อง AI X ซีรีส์รุ่นใหม่ที่ได้รับการติดตั้ง TPM (Trust Platform Module) 2.0 ที่ตรวจสอบโดย FIPS (มาตรฐานกระบวนการข้อมูลของรัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกา) 140-2

Hanwha Techwin พยายามอย่างเต็มที่ที่จะรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยีของตนโดยปฏิบัติตามมาตรฐานขององค์กรที่มีชื่อเสียงระดับโลก

5. การบูรณาการของเทคโนโลยี

เนื่องจากทั้งระบบเน็ตเวิร์คและ IoT ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งทำให้เกิดการดิสรัปชั่นในตลาดกล้องรักษาความปลอดภัย ช่วยให้เกิดความก้าวหน้าใหม่ๆ ในการสตรีมวิดีโอ HD แม้กระทั่งบนอุปกรณ์พกพาต่างๆ เทคโนโลยีเหล่านี้จะขยายศักยภาพในการทำงานสำหรับระบบการวิเคราะห์เสียงและวิดีโอและระบบปัญญาประดิษฐ์ในโลกที่มีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น ในระดับที่กว้างขึ้นนั้น มีการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างอย่างกว้างขวาง ด้วยเทคโนโลยีหลักที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งรวมถึงระบบ IoT และเน็ตเวิร์ค ไปจนถึงการประมวลผลแบบคลาวด์ ระบบข้อมูลอัจฉริยะ และระบบปัญญาประดิษฐ์

คาดกันว่าระบบ IoT นั้นจะได้รับผลในเชิงบวกจากเครือข่ายขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของแบนด์วิดท์และการหน่วงเวลา การเพิ่มเครือข่ายขั้นสูงให้กับกล้องวงจรปิดจะช่วยรองรับระบบวิดีโอการเฝ้าระวังภัยแบบเรียลไทม์จากระยะไกล การใช้งานแอพพลิเคชั่นมือถือที่เพิ่มขึ้น และการจัดการเครือข่ายแบบดั้งเดิม

Internet of Things สำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AIoT) นั้นจะช่วยทำให้เกิดโอกาสความเป็นไปได้ที่เกือบไร้ขีดจำกัด อาทิเช่น การเปิดและบูรณาการระบบและแพลตฟอร์มต่างๆ ให้ขยายความสามารถในการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ต่างๆ

โซลูชั่นของ Hanwha Techwin:

Hanwha Techwin มีเฟรมเวิร์กแพลทฟอร์มแบบเปิดของตัวเองซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มแอป AI ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยเพื่อเพิ่มความสามารถในการใช้งานกล้อง ช่วยปลดปล่อยศักยภาพของกล้องในการทำงานเป็นวิชั่นเซ็นเซอร์ในโซลูชั่นที่ใช้ AI ร่วมกับเทคโนโลยี AIoT และเพื่อสนับสนุนการมีอยู่ทั่วโลกในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่น AIoT ชั้นนำ Hanwha Techwin วางแผนที่จะแนะนำกล่อง AI เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกฮาร์ดแวร์ที่กว้างขึ้น ด้วยกล่อง AI ลูกค้าจะสามารถเปลี่ยนกล้องเครือข่ายใด ๆ ให้เป็นกล้อง AI ทำให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้แอปพลิเคชันที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของพวกเขาได้ อีกทั้งบริษัทยังวางแผนที่จะกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตร VMS หลายรายผ่านโครงการแลกเปลี่ยนและแนะนำผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเลือกการบูรณาการในวงกว้างขึ้นผ่านการใช้งานปลั๊กอิน

click here for English

Hanwha Techwin Singapore Branch
4 Shenton Way #15-06, SGX Centre 2, Singapore 068807
Tel : +65 6221 7513
Fax : +65 6227 9337

www.hanwha-security.com

บริษัท กรุงเทพ โอเอ คอมส์ จำกัด
333/81 ไอทีสแควร์ ชั้น 4 ทาวเวอร์ 1 ถนนกำแพงเพชร 6
แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210
โทรศัพท์ 02 5761466-77
โทรสาร 02 5761480
Email: center@bangkokoa.com
Facebook Fanpage: facebook.com/BOAcoms
Line: @llc1421w

www.bangkokoa.com