เทคโนโลยี IoT กับความสำคัญของระบบรักษาความปลอดภัยในที่อยู่อาศัย

Share

Loading

ในวันนี้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ถือเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่เราสามารถพบเจอได้ตลอดเวลาในการดำเนินชีวิตยุคใหม่ เพราะในทุก ๆ อุตสาหกรรมต่างได้นำเอานำอุปกรณ์ IoT และ Big Data Analytics เข้ามาสนับสนุนธุรกิจของตนทั้งสิ้น

นอกจากนี้ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านก็สามารถเชื่อมต่อเข้าหากันได้มากขึ้น เช่น กล้องวงจรปิด ทีวี ตู้เย็น หรือแม้แต่เครื่องชงกาแฟ ก็สามารถเชื่อมโยงเข้าหากกันได้ด้วย

โดย IoT คือ สัญญาณเครือข่ายที่เชื่อมต่อสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน ด้วยเซ็นเซอร์ โปรแกรม หรือเทคโนโลยีอื่นๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้สิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ระบบ ที่เชื่อมหากันติดต่อ แลกเปลี่ยน ถ่ายโอนข้อมูลกันได้ผ่านสัญญาณ Internet

สำหรับในแวดวงอสังหาริมทรัพย์นั้นก็มีความตื่นตัวในเรื่องของการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ภายในโครงการ เพื่อความสะดวก ปลอดภัย และความพึงพอใจแก่ผู้อยู่อาศัย ดังนั้น ในเรื่องของเทคโนโลยี IoT จะถือเป็นสิ่งพื้นฐานที่ผู้พัฒนาโครงการ (Developer) นำมาใช้ในโครงการต่าง ๆ

เทคโนโลยี IoT กับระบบรักษาความปลอดภัยในที่อยู่อาศัย

IoT จะเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ทำให้เราสามารถควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านได้ผ่านสัญญาณ Internet โดยที่ไม่ต้องเดินไปกดปุ่มคำสั่งที่ตัวเครื่องอีกต่อไป ดังนั้น จึงตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวกสบาย แต่นอกเหนือไปจากนั้น เทคโนโลยีนี้ยังช่วยสนับสนุนในด้านความปลอดภัยได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในบริเวณของพื้นที่ส่นกลาง (Off-unit) และภายในห้องพักหรือบ้านพักอาศัย (In-unit) ของโครงการ

เพราะในปัจจุบัน นอกเหนือไปจากการดูแลความปลอดภัยแบบเก่าที่เราคุ้นเคยโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือ รปภ. ประจำโครงการอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว เพราะการรักษาความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพจะต้องมีเทคโนโลยีคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ดังนี้

การมีระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้เข้ามาในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นระบบคีย์การ์ดในการเข้าถึงห้องพักหรือส่วน Facility ในโครงการ หรือการควบคุม Visitor ควรมีการแลกบัตรประชาชนหรือลงทะเบียนเพื่อตรวจสอบว่าบุคคลภายนอกที่จะเข้าไปในโครงการว่าเป็นใคร มาติดต่อลูกบ้านท่านใด

มีระบบ CCTV ที่ครอบคลุมในพื้นที่โดยรอบโครงการและในจุดเสี่ยง และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินตรวจตราในช่วงเวลาต่าง ๆ ซึ่งนี่ก็เป็นองค์ประกอบเบื้องต้นในการดูแลความปลอดภัยในโครงการ

การนำเทคโนโลยีการอยู่อาศัย IoT เข้ามาใช้ในวงการอสังหาฯ

LIV-24 ถือเป็นตัวอย่างการนำเทคโนโลยี IoT เข้ามาใช้ในวงการอสังหาฯ ซึ่งถือเป็นระบบการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง โดยมีศูนย์กลางตั้งอยู่ที่อาคารสิริแคมปัส ที่ทางพลัส พร็อพเพอร์ตี้ สำหรับใช้บริหารจัดการด้านวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลในโครงการที่พักอาศัยในโครงการ

โดยเป็นศูนย์เฝ้าระวังที่เชื่อมต่อระบบต่าง ๆ จากในโครงการมายังส่วนกลาง เพื่อนำข้อมูล real time มาจัดการรับมือภายใต้ภาวะวิกฤติ ซึ่งเป็นการนำข้อมูลด้านความปลอดภัยในพื้นที่ส่วนกลาง (Security Monitoring) และระบบวิศวกรรมอาคารส่วนกลาง (IoT Facility Management)

ซึ่งในศูนย์เฝ้าระวังจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญทำงานตรวจตราระบบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เพื่อเฝ้าระวัง สั่งการ และประสานงานอยู่ตลอดเวลา ทำให้ในส่วนกลางและในส่วนโครงการต่าง ๆ สามารถสื่อสาร ดูแลความปลอดภัยร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยมีการเฝ้าระวัง monitor ได้แบบ Real-time และมีการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ  จึงช่วยแก้ไขและลดความเสี่ยงก่อนที่จะเกิดการณ์ไม่คาดฝันได้อีกด้วย เช่น มีระบบ CCTV – Video Analytics ที่ช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ หากระบบวิเคราะห์ตรวจจับได้ถึงความผิดปกติ เช่น มีคนล้มหมดสติในห้องฟิตเนส กล้องจะจับภาพและแจ้งเตือนไปยังศูนย์ควบคุม เพื่อตรวจสอบและรีบประสานเจ้าหน้าที่หน้างานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบสถานการณ์เดินตรวจตราตามจุดต่าง ๆ ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโครงการ ผ่านระบบ Real-time Guard Tour เพื่อการทำงานที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในโครงการได้ตลอด 365 วัน และ 24 ชั่วโมง สามารถจัดการเหตุที่เกิดได้ในทันที

ดังนั้น ในยุคต่อไปอันใกล้นี้ ในมุมของผู้อยู่อาศัย ก็จะมีความคาดหวังถึงระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ มีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นมืออาชีพสามารถดูแลช่วยเหลือได้ตลอดเวลา และระบบเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานของโครงการอสังหาฯ ที่ขาดไม่ได้

แหล่งข้อมูลเพิ่ม
www.plus.co.th

เครดิตรูปภาพ
www.pexels.com