หลังจากที่ Meta ได้ประกาศผลประกอบการของไตรมาส 4 ที่ผ่านมาก็ได้ส่งผลให้ราคาหุ้นของ Meta ร่วงลงไปถึง 20% ในทันที สิ่งนี้คือสัญญาณที่บอกว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Facebook จะไม่มีทางโตไปกว่านี้แล้วจริงหรือ
ส่วนหนึ่งที่อาจจะเทรนด์เหมือนกันคือคนวัยรุ่นสมัยมักจะเล่น Twitter หรือ TikTok มากกว่า Facebook เนื่องด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เริ่มไม่ได้ดึงดูดให้มีผู้ใช้ใหม่ ๆ เข้ามามากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังมีกลุ่มชุมชนใหม่ ๆ เกิดขึ้นทั้งบน Discord หรือ Telegram ที่ลักษณะจะแตกต่างกันไปอีกมากมายจนทำให้ไม่จำเป็นจะต้องมาอยู่บน Facebook เสมอไปก็ได้
ส่วนตัวเลขก็ได้แสดงออกมาให้เห็นชัดเจน โดยผู้ใช้งานรายเดือน (Monthly Active Users : MAUs) บน Facebook นั้นยังคงทรงตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 3 และ 4 ในปี 2021 อยู่ที่ 2.9 พันล้านเท่านั้น แต่ตัวเลขผู้ใช้งานรายวัน (Daily Active Users : DAUs) นั้นยังตกลงจาก 1.93 พันล้านมาอยู่ที่ 1.929 พันล้านซึ่งลดลงไป ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เป็นไปตามที่ตลาดคาดหวังจนส่งผลให้หุ้นร่วงทันที 20%
ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ผ่านมาแม้ว่าจำนวนผู้ใช้จะลดลงไป บริษัทแม่ Facebook ก็ได้รีแบรนด์ชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อก้าวเข้าสู่โลก “Metaverse” ที่จะนำเอาทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีไปสร้างประสบการณ์บนโลกเสมือน ซึ่งจะเป็นเส้นทางใหม่ของ Meta ที่อาจจะเรียกว่าเป็นทางรอดของบริษัทอีกทางหนึ่งก็เป็นได้
จะเห็นได้ว่า Facebook (ไม่ใช่ Meta) ที่ในตอนนี้ยังถือว่าเป็นโซเชียลที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ในอนาคตอาจจะไม่ได้เติบโตไปมากกว่านี้แล้ว และ Meta เองก็เริ่มจะเปลี่ยนจุดโฟกัสไปสู่โลก Metaverse แทนแล้วด้วย จึงเป็นไปได้ว่าสักวันหนึ่ง Facebook ก็อาจจะกลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำ เหมือนกับหลาย ๆ โซเชียลที่เกิดขึ้นและดับไปก่อนหน้านี้มาแล้ว เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/1791980854462654/posts/3111351595858900/