ศาสตราจารย์ ดร. Jeremy Bailenson ผู้นำ Stanford เข้าสู่ VR University เปิด “หลักสูตรเสมือนจริง” เต็มรูปแบบ แห่งแรกของโลก!

Share

Loading

หลังจาก Facebook เอ่ยคำว่า Metaverse โลกของ VR ที่เคยคึกคัก ยิ่งทวีความคึกคักทะลุฟ้า

VR ย่อมาจาก Virtual Reality แปลว่า “ความจริงเสมือน” หมายถึง การจำลองสภาพแวดล้อมปัจจุบันเพื่อเข้าไปสู่ภาพเสมือนจริง ผ่านการรับรู้จากการมองเห็น และเสียง

VR จึงเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมแบบ Digital ที่เราเป็นผู้เข้าไปควบคุม ด้วยการสวมใส่อุปกรณ์ที่ช่วยให้เห็นสภาพแวดล้อม และวัตถุต่างๆ แบบเสมือนจริง

ทุกวันนี้ จะเห็นได้ว่า วงการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แวดวงการตลาด และวงการธุรกิจ มีการนำ VR มาใช้ในการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการกันมากขึ้นเรื่อยๆ

แวดวงการศึกษาเองก็เริ่มมีการนำ VR มาใช้ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพียงการชิมลาง หรือการทดลองใช้กับบางรายวิชา

ซึ่งแตกต่างจาก Stanford มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในรัฐ California สหรัฐฯ ที่ได้เปิดตัว “มหาวิทยาลัยเสมือนจริง” หรือ VR University เต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกของโลก!

Stanford ตั้งชื่อหลักสูตรดังกล่าวว่า Virtual People

Virtual People เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยทางการศึกษา ที่ดำเนินการโดย Virtual Human Interaction Lab แห่งมหาวิทยาลัย Stanford ซึ่งกำลังมีการศึกษา ว่าจะสามารถนำ VR มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาได้อย่างไร

โครงการ Virtual People ได้ศาสตราจารย์ ดร. Jeremy Bailenson ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสื่อสารประจำ Stanford เป็นหัวหน้าโครงการ

ศาสตราจารย์ ดร. Jeremy Bailenson บอกว่า ได้แนวคิดการทำ VR University หลังจากที่ได้ทำการสอนนักเรียนเกี่ยวกับ VR มาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี

“ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ผมคิดว่า เทคโนโลยี VR จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ผมจึงคิดหาวิธีที่ดีที่สุดในการรีดประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้ ด้วยการสร้างหลักสูตร VR เต็มรูปแบบขึ้น” ศาสตราจารย์ ดร. Jeremy Bailenson กระชุ่น

VR University ของ Stanford มีเนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมหลายรายวิชาด้วยกัน เป็นต้นว่า วัฒนธรรม บันเทิง วิศวกรรมศาสตร์ พฤติกรรมศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสื่อสาร ที่ผมถนัด ศาสตราจารย์ ดร. Jeremy Bailenson กล่าว และว่า

“ในแต่ละสัปดาห์ หลักสูตรต่างๆ จะเน้นเนื้อหาที่ต้องใช้ VR ในโลกแห่งความเป็นจริง โดยต้องนับรวมเวลาที่นักเรียนแต่ละคนได้ใช้ VR ตลอดจนเวลาที่นักเรียนทั้งชั้นเรียนเข้าสู่สภาพแวดล้อม VR พร้อมๆ กัน”

ศาสตราจารย์ ดร. Jeremy Bailenson ระบุว่า สำหรับโครงการ Virtual People นี้ นักเรียนไม่เพียงแต่จะได้ทดลอง VR เท่านั้น แต่ VR ยังกลายเป็นสื่อที่พวกเขาต้องพึ่งพา

“เท่าที่ผมทราบ ในประวัติศาสตร์ของ VR หรือแม้แต่ในประวัติศาสตร์ของการจัดการเรียนการสอน ไม่เคยมีใครสามารถเชื่อมโยงนักเรียนจำนวนหลายร้อยคนด้วยอุปกรณ์แว่นตา VR เป็นระยะเวลานานหลายเดือนแบบนี้มาก่อน” ศาสตราจารย์ ดร. Jeremy Bailenson สรุป

ทั้งนี้ นักเรียนแต่ละคนจะได้รับอุปกรณ์แว่นตา Oculus Quest 2 ที่สร้างขึ้นโดย Meta บริษัทแม่ของ Facebook เพื่อใช้งานตลอดหลักสูตร

โดย Meta กล่าวว่า ชุดอุปกรณ์ดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญต่อ Metaverse ในอนาคต ซึ่งทาง Meta มีแผนที่จะพัฒนาร่วมกับบริษัทอื่นๆ ต่อไป

ศาสตราจารย์ ดร. Marc Tessier-Lavigne อธิการบดีมหาวิทยาลัย Stanford ระบุว่า ในช่วงปี ค.ศ. 2021 โครงการ Virtual People ของ ศาสตราจารย์ ดร. Jeremy Bailenson จะให้นักศึกษา 263 คนใช้เวลาร่วมกันเกือบ 3,500 ชั่วโมงในสภาพแวดล้อม VR

“เราให้ระบุลงไปในเนื้อหาของหลักสูตร ว่านักเรียนสามารถไปทัศนศึกษา ร่วมสนทนาเป็นกลุ่ม หรือแม้แต่มีส่วนร่วมในกิจกรรมการแสดงดนตรีสด และการแสดงอื่นๆ แบบเสมือนจริงได้อย่างอิสระ” ศาสตราจารย์ ดร. Marc Tessier-Lavigne เผย

นอกจากอุปกรณ์แว่นตา Oculus Quest 2 แล้ว โครงการ Virtual People จะมีการติดตั้งและแจกจ่าย Software เพื่อเชื่อมต่อระหว่างนักเรียนและครู

ซึ่งศาสตราจารย์ ดร. Jeremy Bailenson กล่าวว่าทางมหาวิทยาลัยตัดสินใจใช้ระบบสื่อสารเสมือนจริงที่มีชื่อว่า Engage ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกับที่บรรษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ และสถาบันการศึกษาต่างๆ ใช้ในการจัดการประชุมทางไกล และใช้ในการจัดกิจกรรมเสมือนจริง

Cyan DeVeaux นักศึกษาปริญญาเอกของ Stanford ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยสอนในโครงการ Virtual People ระบุว่า VR ช่วยให้ผู้คนสามารถจินตนาการถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ได้จริง

“พวกเราล้อกันขำๆ ถึงรายวิชาการทำสมาธินอกโลก” Cyan DeVeaux กล่าว และว่า

พวกนักเรียนสามารถสร้างการแสดงด้วย Avatar ที่แตกต่างกัน และสามารถสร้างฉากที่ไม่ธรรมดาได้ด้วยตัวเองอีกด้วย

เช่นเดียวกับ Allison Lettiere นิสิตปริญญาโทสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ บอกว่า เมื่อก่อนเธอเคยคิดว่า VR มักจะเกี่ยวข้องกับ Video Games เท่านั้น

“แต่ฉันเข้าใจผิด เพราะโครงการ Virtual People ได้สอนข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่อาจนำไปใช้ในอาชีพการงานได้ในอนาคต”

สอดคล้องกับ Sophie Marie Wallace นิสิตปริญญาตรีสาขาวิชาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสังคม ที่บอกว่าหลักสูตรนี้ช่วยให้เธอเชื่อมต่อกับประสบการณ์เสมือนจริงได้อย่างน่าตื่นเต้น

“โครงการ Virtual People ทำให้ฉันค้นพบเรื่องใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่นการใช้ VR เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการเล่นกีฬาทั้งบนบกและทางน้ำ เป็นต้น”

ศาสตราจารย์ ดร. Jeremy Bailenson วางแผนที่จะใช้ข้อมูลจากชั้นเรียน เพื่อตรวจสอบความแตกต่างของพฤติกรรมในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง

“ผมวาดหวัง ว่าข้อมูลดังกล่าวจะสามารถนำมาใช้ เพื่อช่วยให้พวกเราเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้ และนำไปสู่การขยายตัวของเทคโนโลยี VR ทางการศึกษาได้ต่อไปในอนาคต” ศาสตราจารย์ ดร. Jeremy Bailenson ทิ้งท้าย

แหล่งข้อมูล

https://www.salika.co/2022/02/06/jeremy-bailenson