เคยมีคำกล่าวไว้ว่า “สิ่งที่หนีไม่พ้นนอกจากความตาย ก็คือโฆษณาแว่น Ophtus” ซึ่งถ้าหากว่าใครเป็นคนที่อยู่ในวงการเกม ก็น่าจะคุ้นเคยชื่อแว่น Ophtus กันเป็นอย่างดีเพราะเกือบทุกช่องในยูทูบที่เป็นคอนเทนต์เกี่ยวกับเกม มักจะมี Ophtus เป็นผู้สนับสนุนอยู่เสมอ จนกลายเป็นคำถามชวนสงสัยของใครหลายคนว่า ทำไม Ophtus ถึงจ้างอินฟลูเอนเซอร์ มากมายขนาดนี้ ? ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับแว่น Ophtus กันเสียก่อน
สำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน Ophtus เป็นธุรกิจแว่นกรองแสงที่เกิดขึ้นมาจากความหลงใหลในการเล่นเกมของตัวผู้ก่อตั้งเอง
ถ้าหากใครที่เกิดในช่วงปี 2000 – 2010 จะพบว่ายุคนั้น เป็นยุคที่เกมออนไลน์เฟื่องฟูมาก ไม่ว่าจะเป็นเกมออนไลน์อย่าง Ragnarok, PangYa, Yulgang, Maplestory หรือ Audition
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นยุคที่เกมออนไลน์เฟื่องฟู แต่ก็เป็นยุคที่ผู้ใหญ่หลายคน ไม่ให้การยอมรับเรื่องของ “การเล่นเกม” และเมื่อเด็ก ๆ เกิดปัญหาบางอย่าง ผู้ใหญ่ก็มักจะเลือกโทษเกมเป็นอย่างแรก..
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ตัวผู้ก่อตั้ง Ophtus ที่ประสบปัญหาเล่นเกมแล้วปวดตา ก็ไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวว่าผู้ใหญ่จะโทษเกม และในขณะเดียวกันการไปตัดแว่นที่ร้าน เพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะก็ทำได้ยาก เนื่องจากร้านแว่นในสมัยก่อนมักจะมีเจ้าของเป็นผู้ใหญ่ ทำให้ไม่เข้าใจพฤติกรรมการใช้งาน รวมถึงในยุคนั้นก็ยังไม่มีบริษัทไหน ที่โฟกัสการทำแว่นสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะอีกด้วย ทำให้ในปี 2018 ตัวผู้ก่อตั้ง ก็ได้ตัดสินใจเปิดตัวแว่น Ophtus ขึ้นมาแสดงแก่สายตาชาวโลก
โดยสิ่งที่แบรนด์ Ophtus พยายามสื่อสารไปยังผู้บริโภคก็คือ การเป็นแว่นกรองแสงที่ช่วยลดปัญหาแสงสีฟ้าที่ทำร้ายดวงตาของเราโดยเฉพาะ และความพิเศษอีกอย่างคือ ความแข็งแรง ที่ไม่ว่าผู้ใส่จะ เหยียบ นั่งทับ หรือปาใส่กำแพง แว่น Ophtus ก็จะยังคงสภาพเดิม..
นอกจากนี้ สาเหตุที่ตัวผู้ก่อตั้งเลือกทำแว่นสำหรับเกมเมอร์ หรือกลุ่มคนเล่นเกมโดยเฉพาะ ก็เป็นเพราะอดีตในวัยเด็ก และความคุ้นเคยของตนเองที่อยู่ในแวดวงเกมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ Ophtus เริ่มหันมาใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมตด้วย
แต่ถ้าหากย้อนกลับไปในช่วง 3 – 4 ปีที่แล้ว คำว่า อินฟลูเอนเซอร์ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักด้วยซ้ำ สิ่งที่ Ophtus ทำในทีแรก จึงเป็นเหมือนการส่งสินค้าไปให้กลุ่มเกมเมอร์ทั้งหลาย แล้วเก็บเสียงตอบรับ (Feedback) เพื่อนำมาพัฒนา Ophtus ต่อไป
ต่อมา Ophtus จึงเริ่มขยายกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ไปเรื่อย ๆ โดยไม่สนว่าจะมีจำนวนผู้ติดตามเท่าไร
โดยสิ่งที่นำมาเป็นเกณฑ์ในการจ้างอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคนก็คือ “ความชอบของผู้ก่อตั้ง” และความต้องการที่จะตอกย้ำจุดยืน การเป็นแว่นสำหรับทุกคน หรือ “Eyewear For All”
“เวลาเราดูใครแล้วเราชอบ เราก็อยากให้เขาได้ลองใช้สินค้าของเรา”
จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นโฆษณาแว่น Ophtus ผ่านอินฟลูเอนเซอร์มากหน้าหลายตา อย่างล่าสุด Ophtus ก็ได้คุณ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ มาเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ เพื่อตอกย้ำจุดยืน การเป็นแว่นสำหรับทุกคน
ที่น่าสนใจคือ Ophtus แทบจะไม่เคยบรีฟอินฟลูเอนเซอร์ในการทำคอนเทนต์เลย โดยตัวผู้ก่อตั้งได้พูดถึงประเด็นในมุมนี้ว่า
“เราพยายามสนับสนุนอินฟลูเอนเซอร์ ให้พูดแบบจริงใจไปเลย ไม่ต้องห่วงภาพลักษณ์แบรนด์มาก อยากนำเสนออะไรก็ใส่มาได้เต็มที่”
จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นคอนเทนต์ที่เรียกได้ว่า ครีเอตจนสงสัยว่าคิดได้อย่างไร เช่น Pasulol กับคลิป “การผจญภัยของกัปตันออปตัส” ที่แค่ 11 วันก็มียอดวิวสูงถึง 1.6 ล้านครั้ง ทั้ง ๆ ที่ทั้งคลิปมีแต่การขายของ Ophtus ล้วน ๆ หรือประโยคเด็ดอย่าง “ถ้าคุณไม่อยากตาบอด” จากคุณ NAKLAS GAMER เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความสำเร็จของการใช้งานอินฟลูเอนเซอร์ของ Ophtus ตัวผู้ก่อตั้งกลับไม่ได้มองเม็ดเงินเป็นตัววัดความสำเร็จ แต่มองว่า “เราสนุก ลูกค้าสนุก” ก็เพียงพอแล้ว
ส่วนแผนการในอนาคตของ Ophtus ก็จะยังคงเน้นการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ต่อไป รวมถึงเน้นการขยายสาขาหน้าร้าน เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า ที่อยากเข้ามาตัดแว่นกับทาง Ophtus ด้วย
และสุดท้าย ทางผู้ก่อตั้งยังกระซิบมาอีกว่า ในปีนี้เตรียมตัวพบกับสินค้าใหม่จากทาง Ophtus แน่นอน แต่ยังไม่พร้อมสปอยล์ตอนนี้..
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/1387231808035873/posts/4811441828948170/