เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีรายงานว่า Google ได้กลับมาเริ่มพัฒนาแว่น AR อีกครั้ง ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า “Project Iris” หลังจากก่อนหน้านี้ Google เคยวางขายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ AR/VR แล้ว แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ล่าสุด มีรายงานอีกว่า Google ได้เข้าซื้อกิจการ Raxium สตาร์ตอัปที่มุ่งเน้นในการพัฒนาจอแสดงผลแบบ microLED เพื่อเสริมธุรกิจ AR ที่ซุ่มพัฒนาอยู่ และอาจจะนำมาใช้ในอุปกรณ์ VR อื่น ๆ ในอนาคตด้วยเช่นกัน
แม้ว่า Google จะไม่ได้ประกาศมูลค่าการเข้าซื้อกิจการอย่างเป็นทางการ แต่ทางสำนักข่าว The Information รายงานมูลค่าการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้อยู่ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33,460 ล้านบาท)
สำหรับ Raxium เป็นสตาร์ตอัปที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 5 ปี แต่ก็เรียกได้ว่า เป็นผู้พัฒนา microLED ที่สำคัญรายหนึ่ง โดยเทคโนโลยี microLED เป็นเทคโนโลยีการแสดงผลที่มีความละเอียดสูง, ใช้พลังงานน้อย, ให้ค่าสีที่ถูกต้อง และที่สำคัญคือ ให้ความสว่างมาก ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับแว่น AR ที่จะนำไปใช้ในที่กลางแจ้ง หรือที่ที่มีแสงสว่างมาก
แตกต่างจากเทคโนโลยี OLED ที่ก่อนหน้านี้ถูกมองว่า เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับแว่น AR แต่ด้วยข้อจำกัดบางประการ ทำให้อาจเกิดปัญหาในการใช้งานในที่กลางแจ้งได้
ด้วยข้อดีเหล่านี้ ทำให้ที่ผ่านมา บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยี microLED ต่างเป็นเป้าหมายของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก เช่น Apple, Meta และ Snap ซึ่งก่อนหน้านี้ ต่างก็เคยซื้อกิจการบริษัทที่พัฒนา microLED เช่นกัน แต่สำหรับ Raxium นั้น บริษัทได้อ้างว่า เทคโนโลยี microLED ของพวกเขา มีเทคนิคและวิธีการผลิตที่แตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ ซึ่งทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ถูกลงนั่นเอง
สำหรับผู้ผลิตแว่น AR และ VR รายสำคัญในปัจจุบัน ก็มีทั้งแว่น Meta Quest ของ Meta และ HoloLens 2 ของ Microsoft ขณะที่ Apple ก็มีรายงานว่า กำลังพัฒนาแว่น AR อยู่ โดยใช้เทคโนโลยีแสดงผลแบบ microOLED ส่วน Google ก็อย่างที่บอกไปว่า กำลังซุ่มพัฒนาแว่น AR ที่มีชื่อว่า Project Iris และคาดว่าจะวางขายภายในปี 2024 นี้
ซึ่งการที่ Google เข้าซื้อกิจการของ Raxium นี้ ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Google จะนำเทคโนโลยี microLED เข้ามาใช้ในการแสดงผลหรือไม่
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/1387231808035873/posts/4887977294627956/