Huawei หันหัวเรือใหม่ ไปโฟกัสที่ธุรกิจ พลังงานโซลาร์เซลล์ หลังสมาร์ตโฟนถูกแบนโดยสหรัฐฯ

Share

Loading

หากพูดถึงชื่อ Huawei ขึ้นมา หลาย ๆ คนคงนึกถึงสมาร์ตโฟนจากจีนที่นับเป็นแบรนด์จีนแรก ๆ ที่ประสบความสำเร็จในการเข้าทำตลาดในไทย แต่หากเราสังเกต พักหลัง ๆ มานี้ สมาร์ตโฟนของ Huawei ดูไม่ค่อยหวือหวาเท่าเมื่อก่อนแล้ว

อาจเป็นเพราะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และการทำสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้าด้วย อีกทั้งยังเจอกับปัญหาการถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ อย่างที่เคยเป็นข่าวใหญ่ว่าสมาร์ตโฟนของ Huawei จะไม่รองรับการใช้งาน Google แล้ว ซึ่งก็แน่นอนว่า ทำให้บริษัทเจ็บหนักและกระทบยอดขายโดยตรง ทำให้ล่าสุด Huawei ได้เปลี่ยนทิศทางธุรกิจไปโฟกัสที่พลังงานโซลาร์เซลล์ และโครงการกักเก็บพลังงาน โดยภายในงานมหกรรมเทคโนโลยีมือถือ MWC Barcelona 2022 ทางคุณ Guo Ping รองประธาน Huawei กล่าวว่า

“Digitalization และความเป็นกลางทางคาร์บอนฯ (Carbon Neutrality) นับเป็น 2 หัวข้อที่มาแรงที่สุดในโลกตอนนี้ และเน้นย้ำให้เห็นถึงการพิจารณามิติใหม่ ๆ ในการลดปริมาณคาร์บอนฯ”

ทั้งนี้ ภายในงานมหกรรม ทางบริษัทได้เปิดตัวเทคโนโลยีเครือข่าย ที่สามารถนำไปสู่การลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ซึ่งทาง Huawei ก็ได้ไปเปิดตลาดนี้แล้วในตะวันออกกลาง เพราะทางบริษัทชนะการประมูลจากรัฐบาลดูไบ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยศูนย์ข้อมูลในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะพร้อมใช้งานในเดือนพฤษภาคม และกลายเป็นหนึ่งในศูนย์ข้อมูลที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ ที่ใหญ่สุดในภูมิภาค

อีกทั้ง เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Huawei ยังได้รับออร์เดอร์จากซาอุดิอาระเบีย  สำหรับโครงการกักเก็บพลังงาน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในแผนการสร้างเมืองปลอดมลพิษของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ที่จะขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด

จะเห็นได้ว่า Huawei มีโครงการใหญ่มากมายที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน จึงทำให้ทางบริษัทต้องคิดเรื่องการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา (R&D) ด้วยเช่นกัน โดยทางบริษัทจะเพิ่มการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท ในมณฑลเซินเจิ้น ด้วยเงินกว่า 630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 20,530 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี จริง ๆ แล้วทาง Huawei ถือว่ามีความเชี่ยวชาญทางด้านโซลาร์เซลล์อยู่แล้ว รวมถึงมีสิทธิบัตร 5G จำนวนมาก ดังนั้น จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดี ที่จะควบรวมจุดแข็งด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคม และด้านพลังงานมาใช้ในการบรรลุเป้าคาร์บอนฯ รวมถึงหาวิถีทางใหม่ ๆ ก้าวออกจากปัญหาที่เจอในธุรกิจสมาร์ตโฟน นั่นเอง..

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/1387231808035873/posts/4840704562688563/