สตาร์ตอัปสหรัฐฯ ส่งเทคโนโลยี AI จดจำใบหน้าให้ยูเครน เพื่อตรวจสอบบุคคลและระบุตัวตนผู้เสียชีวิต

Share

Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24

Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25

Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26

Loading

สำนักข่าว Reuters ได้ระบุว่า กระทรวงกลาโหมของยูเครน เริ่มใช้เทคโนโลยี AI จดจำใบหน้าของ Clearview AI สตาร์ตอัปสัญชาติอเมริกันที่เสนอให้ใช้ฟรี เพื่อเปิดเผยตัวตนผู้ปฏิบัติการชาวรัสเซีย, ต่อต้านข้อมูลที่ผิด ๆ และระบุตัวตนผู้เสียชีวิต

โดยจุดเริ่มต้นของการนำเทคโนโลยีมาใช้ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากรัสเซียบุกโจมตียูเครน ซึ่ง Hoan Ton-That ที่เป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Clearview AI ได้ส่งจดหมายถึงยูเครน เพื่อแสดงความช่วยเหลือ ด้วยการให้เทคโนโลยีของทางบริษัทไปใช้

ทาง Hoan Ton-That บอกว่า เทคโนโลยี AI จดจำใบหน้าของเขา มีรูปภาพมากกว่า 2,000 ล้านภาพที่ได้จาก VKontakte โซเชียลมีเดียของรัสเซีย เพื่อระบุตัวตนชาวรัสเซีย จากฐานข้อมูลทั้งหมดกว่า 10,000 ล้านภาพที่มีอยู่ ซึ่งด้วยฐานข้อมูลจำนวนมากนี้ จะช่วยให้ยูเครนสามารถระบุชาวรัสเซียผู้เสียชีวิตได้ง่ายกว่าการตรวจสอบลายนิ้วมือ รวมถึงเทคโนโลยี AI จดจำใบหน้านี้ ยังสามารถทำงานได้ แม้ว่าผู้เสียชีวิตจะมีความเสียหายบนใบหน้าก็ตาม

นอกจากนี้ Hoan Ton-That ยังบอกว่า เทคโนโลยีนี้ ยังสามารถนำมาใช้เพื่อพาผู้ลี้ภัยที่ถูกแยกออกจากครอบครัวให้กลับมารวมตัวกันได้, ระบุตัวตนผู้ปฏิบัติการชาวรัสเซีย และช่วยรัฐบาลยูเครนต่อต้านข้อมูลผิด ๆ ได้ด้วย

อย่างไรก็ดี Clearview AI ไม่ได้เสนอเทคโนโลยีดังกล่าวให้กับฝั่งรัสเซีย และเรียกการกระทำของตัวเองที่ช่วยเหลือยูเครนว่า เป็น “ปฏิบัติการพิเศษ” ขณะที่ทางกระทรวงกลาโหมของยูเครน ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้

โดยก่อนหน้านี้ มีเพียงโฆษกของกระทรวงดิจิทัลของยูเครน ที่ออกมากล่าวว่า ยูเครนกำลังพิจารณาข้อเสนอจากบริษัท Clearview AI รวมถึงบริษัทฝั่งตะวันตกจำนวนมาก ที่ให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือยูเครนด้วยการจัดหาอินเทอร์เน็ต, เครื่องมือรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการสนับสนุนอื่น ๆ

ซึ่งนอกจากยูเครนจะนำเทคโนโลยี AI จดจำใบหน้า มาใช้กับกระทรวงกลาโหมแล้ว ก็คาดว่าจะนำมาใช้กับหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาลด้วยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

อย่างไรก็ดี นักวิจารณ์บางคนมองว่า การใช้เทคโนโลยี AI จดจำใบหน้า อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาด และนำไปสู่การสูญเสียของชีวิตพลเรือน รวมถึงการจับกุมที่ไม่ธรรมด้วย ซึ่ง Hoan Ton-That ระบุว่า เทคโนโลยีของ Clearview AI ไม่ควรถูกใช้เป็นแหล่งระบุตัวตนตัวเพียงแหล่งเดียว และเขาไม่ได้ต้องการใช้เทคโนโลยีนี้ เพื่อละเมิดอนุสัญญาเจนีวา ที่ว่าด้วยเรื่องกฎเกณฑ์ในการปฏิบัติระหว่างสงคราม

ที่ผ่านมา Clearview AI ขายเทคโนโลยีให้กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ เป็นหลัก โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการต่อสู่คดีความในสหรัฐฯ ในข้อกล่าวหาละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการดึงข้อมูลภาพถ่ายบนเว็บไซต์ ซึ่งทาง Clearview AI ยืนยันว่า การรวบรวมข้อมูลนั้น คล้ายกับวิธีการทำงานในการค้นหาของ Google ขณะที่หลาย ๆ ประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ยังถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ผิดกฎหมาย

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/1387231808035873/posts/4869484329810586/