Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24
Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25
Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26
ดูเหมือนว่ากระแสรถยนต์ไฟฟ้ายังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายราย ก็ออกมาประกาศว่า จะหันมาพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ขณะที่บางค่าย ก็ประกาศว่าจะยกเลิกการผลิตรถยนต์สันดาป หรือรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไปเลย
ล่าสุด BYD ค่ายรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของจีน และค่ายรถยนต์อันดับ 4 ของโลกในตอนนี้ ก็ประกาศว่า นับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่าน บริษัทได้หยุดการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป เป็นที่แล้วเรียบร้อยแล้ว โดยจะหันไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพลังแบตเตอรี่ (EV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) อย่างเต็มรูปแบบแทน
อย่างไรก็ดี BYD บอกว่า จะยังไม่หยุดผลิตเครื่องยนต์เบนซินอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็ก และมีประสิทธิภาพสูง จึงจะยังถูกนำไปใช้ในรถยนต์ปลั๊กไฮบริดต่อไป
โดยความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เป็นการตอบสนองต่อท่าทีของทางการจีน ที่ต้องการเพิ่มการใช้พลังงานสีเขียวภายในประเทศนั่นเอง
และ BYD ยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ 6 ราย ซึ่งรวมถึง Volvo, Ford, General Motors, Mercedes-Benz และ Jaguar Land Rover ที่ได้ลงนามในการรณรงค์ยุติการใช้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ภายในปี 2040 หรือในอีก 18 ปีข้างหน้า
สำหรับรถยนต์ EV และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานใหม่ (NEV) ซึ่งยังประกอบด้วยรถยนต์ไฮบริด (HEV) และรถยนต์ฟิวเซลล์ (FEV) ด้วย
โดยในมีนาคมที่ผ่านมา BYD มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานใหม่ เพิ่มขึ้น 24,218 คันเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า และนับว่าเป็นเดือนที่มียอดขายสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งประกอบด้วยยอดขาย
– รถยนต์ไฟฟ้า EV 53,664 คัน
– รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด 50,674 คัน
– รถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ 540 คัน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าบริษัทจะยกเลิกการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแล้ว แต่ผู้ใช้งานที่ซื้อรถยนต์ไปก่อนหน้านี้ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะบริษัทระบุว่า จะยังคงให้บริการ และจัดหาชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ ซึ่งจะครอบคลุมระยะเวลาตลอดการใช้งาน
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/MarketThinkTH/posts/4924393584319660/