เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว Facebook ประกาศเดินหน้าพัฒนาฟีเชอร์พอดแคสต์ รวมถึง Live Audio Rooms ที่จะเป็นคู่แข่งกับ Clubhouse ที่ตอนนั้นกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก แต่หลังจากผ่านมา 1 ปี ดูเหมือนว่าความสนใจในฟีเชอร์พอดแคสต์ และ Live Audio Rooms ของ Facebook จะลดลงแล้ว..
โดยสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Facebook กำลังจะเลิกพัฒนาฟีเชอร์พอดแคสต์ของตัวเอง และจะจัดลำดับความสำคัญในการทำธุรกิจใหม่ โดยจะหันไปร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ด้านพอดแคสต์แทน และสนับสนุนให้เป็นส่วนหนึ่งของโลก Metaverse เช่น มีการจัดกิจกรรมด้านเสียงใน Metaverse
สาเหตุที่มองว่า Facebook จะเลิกพัฒนาฟีเชอร์ด้านเสียงของตัวเอง ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ Facebook ได้ประกาศโครงการฝึกอบรมครีเอเตอร์ด้านพอดแคสต์ เพื่อสนับสนุนให้ใช้ฟีเชอร์ของ Facebook อย่างไรก็ดี โครงการนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง
นอกจากนี้ ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว Meta เป็นผู้สนับสนุน Podcast Movement การประชุมเกี่ยวกับพอดแคสต์ครั้งใหญ่ แต่ในงานด้านพอดแคสต์ที่เพิ่งจัดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Meta กลับไม่ได้สนับสนุน และไม่ได้ส่งตัวแทนของบริษัทเข้าร่วมงานแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน ข้อตกลงต่าง ๆ ที่ Meta เคยตกลงไว้กับครีเอเตอร์ เช่น ให้ DeRay McKesson นักเคลื่อนไหวในสหรัฐฯ เป็นโฮสต์ใน Live Audio Rooms รวม 6 ครั้ง ซึ่งข้อตกลงนี้ก็เป็นไปได้ด้วยดี แต่ก็ยังไม่ได้ต่อสัญญาเช่นกัน
ที่ผ่านมา หนึ่งในภารกิจที่ Meta หันไปให้ความสนใจมากขึ้น ก็คือการพัฒนาโลกเสมือนอย่าง Metaverse รวมถึงพัฒนาฟีเชอร์วิดีโอสั้น เพื่อแข่งขันกับแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง TikTok
ประกอบกับธุรกิจด้านเสียง อย่างพอดแคสต์ มี Apple Podcast และ Spotify เป็นเจ้าตลาด รวมถึงด้าน Live Audio ก็มี Clubhouse และ Twitter Spaces ที่เดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดนี้ เมื่อรวมกันแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมความสนใจในการพัฒนาพอดแคสต์ และ Live Audio Rooms ของ Facebook จึงลดลง เพราะถ้าหากยังพัฒนาต่อไป ก็อาจจะต้องใช้เวลา และเงินทุนจำนวนมาก เพื่อเอาชนะคู่แข่งให้ได้
โดยทางโฆษกของ Meta ไม่ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด ระบุเพียงแค่ว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี (ที่ต่างประเทศ) ทั้งจากผู้ใช้งานและครีเอเตอร์ในฟีเชอร์ด้านเสียงอย่างพอดแคสต์และ Live Audio Rooms
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/1387231808035873/posts/4963467947078890/