Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24
Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25
Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26
บริษัท Mitsubishi Heavy Industries ประเทศญี่ปุ่น วางแผนพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กเชิงพาณิชย์ ที่สามารถขนส่งได้ด้วยรถบรรทุก ภายในปี 2030 นี้
เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับพลังงานสะอาดไร้คาร์บอนฯ โดยเครื่องปฏิกรณ์ขนาดเล็ก (Microreactor) นี้ จะมีมีขนาด 3 x 4 เมตร น้ำหนักเบากว่า 40 ตัน ตัวเครื่องปฏิกรณ์ และเครื่อกำเนิดพลังงาน จะสามารถใส่ได้พอดีกับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ทำให้สามารถขนส่งไปยังพื้นที่ประสบภัย และพื้นที่ห่างไกลได้ อีกทั้งเทคโนโลยีนี้ ถูกออกแบบมาให้ฝังไว้ใต้ดิน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น และยังสามารถใช้กับโครงการสำรวจอวกาศได้ด้วย
ส่วนในด้านการใช้งาน เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของ Mitsubishi มีกำลังการผลิตได้มากสุด 500 กิโลวัตต์ หรือราว 1 ใน 20 ของเครื่องเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั่วไป ที่มีกำลังผลิตมากกว่า 1 กิกะวัตต์ และสามารถใช้ได้ประมาณ 25 ปีโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนเชื้อเพลิงใหม่ โดยที่เมื่อหมดอายุการใช้งาน เตาปฏิกรณ์ก็จะสามารถกู้คืนได้ทั้งหมด
ซึ่งคาดว่าเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของ Mitsubishi จะมีราคาราว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 337 ล้านบาท) ต่างกันลิบลับจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ปกติ ที่ต้องใช้เงินสร้างโรงงานขึ้นมากว่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 202,300 ล้านบาท)
จะเห็นได้ว่าบริษัทและประเทศต่าง ๆ เริ่มหันมาสนใจแนวทางการสร้างพลังงานแบบไม่ปล่อยคาร์บอนฯ มากขึ้นเพื่อความพยายามในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนฯ ร่วมกัน ทั้งโครงการพระอาทิตย์เทียมของจีน ที่สร้างเตาปฏิกรณ์ขนาดใหญ่ เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานสะอาดในอนาคต
บริษัท Rolls-Royce ที่ได้รับการอนุมัติให้สร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก เครื่องแรกในสหราชอาณาจักรและการประกาศพัฒนาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของ Mitsubishi Heavy ที่สามารถขนได้ด้วยรถบรรทุก ก็นับเป็นอีกหนึ่งก้าวของวงการพลังงานสะอาดในอนาคตเช่นกัน