Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24
Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25
Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26
หลายคนน่าจะรู้กันอยู่แล้วว่า รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในปัจจุบัน ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แต่ด้วยข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง เช่น เรื่องระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ที่วิ่งได้ไม่ไกลเท่ารถยนต์สันดาปภายใน ทำให้ที่ผ่านมา หลาย ๆ บริษัทหันมาพัฒนาแบตเตอรี่รูปแบบใหม่ ๆ ที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
ล่าสุด Nissan ก็เป็นอีกค่ายรถที่หันมาพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่แบบใหม่ ๆ ก็คือ แบตเตอรี่ Solid-State
เบื้องต้น บริษัทตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นแบบในเมืองโยโกฮามะ และจะเริ่มผลิตนำร่องภายในปี 2024 จากนั้นก็ตั้งเป้าว่า จะนำมาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้ภายในปี 2028 และยังมีแผนที่จะนำแบตเตอรี่ดังกล่าวมาใช้กับรถกระบะ และยานพาหนะอื่น ๆ ด้วย ตามวิสัยทัศน์ Nissan Ambition 2030 ซึ่งเป็นแผนระยะยาวของ Nissan เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า
แล้วแบตเตอรี่ Solid-State นั้นดีกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอย่างไร ?
ทาง Nissan บอกว่า แบตเตอรี่ Solid-State จะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อก ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาถูกลง และมีระยะทางในการขับขี่ไกลขึ้น รวมถึงยังมีรายงานด้วยว่า แบตเตอรี่ Solid-State มีน้ำหนักเบากว่า, มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า และปลอดภัยกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
อย่างไรก็ดี เบื้องต้นต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ยังมีราคาแพงอยู่ เพราะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และยังมีการผลิตไม่มาก แต่ Nissan ก็คาดว่า หลังปี 2028 ต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ และรถยนต์ไฟฟ้า จะลดลงมาเทียบเท่ากับรถยนต์สันดาปภายในได้
ปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ Nissan ที่หันมาพัฒนาแบตเตอรี่ดังกล่าว ทาง Toyota ก็หันมาผลิตแบตเตอรี่ Solid-State ของตัวเอง และตั้งเป้าว่าจะนำมาใช้กับรถยนต์ไฮบริดภายในปี 2025
และก่อนหน้านี้ ค่ายรถยนต์มากมาย ทั้ง General Motors, Stellantis, Mercedes-Benz และ Ford ก็ได้ลงทุนในสตาร์ตอัปที่ผลิตแบตเตอรี่ Solid-State เพื่อหวังครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตด้วยเช่นกัน
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/MarketThinkTH/posts/4943093889116296/