นักวิจัย Google ประกาศกร้าว AI ตัวใหม่มีศักยภาพพอที่จะฉลาดกว่ามนุษย์แล้ว

Share

Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24

Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25

Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26

Loading

ถ้าใครที่ได้ติดตามโครงการ DeepMind ของ Google ก็คงจะรู้ว่านี่คือหนึ่งในโครงการสร้าง AI ที่มีศักยภาพสูงสุดแล้ว หรือพูดง่ายๆ ว่าถ้าเราจะคาดหวังให้มีคนสร้าง AI ได้ ‘ฉลาดเท่ามนุษย์’ ก่อนใคร ก็คือโครงการนี้แหละ

ล่าสุดนักวิจัยระดับหัวหน้าทีม DeepMind ออกมาทวีตว่า ในทางทฤษฎีสามารถสร้าง AI ในระดับฉลาดเท่ามนุษย์ได้แล้ว เพราะโมเดลที่จะทำ มันมีอยู่แล้ว ที่เหลือคือปัญหาทางเทคนิคที่จะทำให้ระบบใหญ่ขึ้น เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพขึ้น และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

แต่เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? อันนี้เราต้องถอยกลับไปคอนเซ็ปต์ที่สำคัญอย่าง ‘ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป’ (Artificial General Intelligence หรือ AGI) ซึ่งเป็นศัพท์เทคนิคของสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่า ‘AI’ ที่ฉลาดเท่ามนุษย์

ทุกวันนี้เวลาพูดถึง AI เรากำลังพูดถึงอัลกอริธึมที่ได้รับการป้อนข้อมูลไปเพื่อให้มันทำงานบางอย่างได้ ซึ่งงานที่ว่าบางทีมันก็ทำได้ดีกว่ามนุษย์ อย่างไรก็ตามถ้าไม่มีข้อมูลที่ป้อนเข้าไปก่อน มันจะไม่มีทางทำงานได้เลย

สิ่งที่เรียกว่า ‘ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป’ คือ AI ที่จะสามารถทำงานบางอย่างได้ โดยไม่เคยเรียนรู้มาก่อน คล้ายกันกับ ‘ทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า’ ของมนุษย์นั่นแหละ แต่ทุกวันนี้ยังไม่มี AI ตัวไหนทำได้ และพูดให้ตรงคือไม่มีใครรู้ว่า AI แบบนั้นจะพัฒนามาได้อย่างไร เพราะทุกวันนี้พื้นฐานของ AI ทุกตัวคือการสร้างโมเดลมาป้อนข้อมูลเข้าไปทั้งหมด ดังนั้นการสร้าง AI ที่ ‘คิดเองได้’ แบบไม่ป้อนข้อมูล คือสิ่งที่เป็นไปได้ในทางทฤษฎี แต่จะเป็นไปได้จริงหรือไม่นั้นยังไม่มีใครรู้

ตอนนี้ DeepMind เพิ่งออก AI ตัวใหม่ชื่อ ‘Gato’ ออกมาในเดือนพฤษภาคม 2022 ซึ่งล้ำสมัยถึงขนาดว่าสามารถขยับแขนกล เล่นเกม และเขียนบทกวีได้แล้ว

หลายคนก็บอกว่านี่คือสิ่งที่บ่งชี้ว่ามันเข้าใกล้ ‘ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป’ แล้ว แต่ขณะเดียวกันก็มีคนออกมาเถียงว่า จริงๆ นี่แหละข้อพิสูจน์ว่า ‘ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป’ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะสิ่งที่คุณทำ มันไม่ใช่ AI ที่ ‘คิดเองได้’ แต่แค่เป็น AI ผ่านการเทรนข้อมูลมาแบบซับซ้อนหลากหลาย เท่านั้น

พูดง่ายๆ คือมันเหมือนเป็นการ ‘เล่นกล’ ให้คนดู แล้วบอกว่าเป็น ‘ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป’ แต่จริงๆ ไม่ใช่ พอนักวิจัยที่สร้าง Gato มาได้ยิน ก็เลยออกมาแย้งว่า จริงๆ Gato มีศักยภาพเป็น ‘ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป’ ได้แน่ๆ

ประเด็นคือเขาไม่เชื่อว่าความต่างกันของ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ กับ ‘ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป’ จะเป็นความต่างเชิงคุณภาพแบบที่เชื่อกัน หรือพูดอีกแบบ คือมันไม่ได้ต้องการโมเดลแบบใหม่ แต่ต้องการโมเดลที่เร็วขึ้น จัดการข้อมูลได้มากขึ้นเท่านั้นเอง หรือพูดแบบประสบการณ์มนุษย์ก็คือ คุณไม่จำเป็นต้องทำ AI ที่ ‘แก้ปัญหาที่ไม่เคยแก้ได้’ แต่คุณต้องทำให้มนุษย์รู้สึกว่ามันทำได้ เท่านั้นพอ

เพราะในทางทฤษฎี ถ้าเราใส่ทุกความเป็นไปได้ในจักรวาลลงไปใน AI ให้มันฝึก มันก็จะมีประสบการณ์แก้ปัญหาทุกอย่าง หรือพูดง่ายๆ ว่า ‘ปัญหาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน’ นั้นไม่เคยมีอยู่จริง เพราะทุกอย่างในจักรวาลทำงานภายใต้กฎวิทยาศาสตร์ และถ้าเราวาดแผนที่ความเป็นไปได้ของทุกสิ่งออกมาได้ และเรามีคอมพิวเตอร์ที่แรงพอ เราก็จะสร้าง AI ที่แก้ทุกปัญหาในจักรวาลได้

นี่คือประเด็นที่นักวิจัยเชื่อว่าด้วยอัลกอริธึมตัวใหม่อย่าง Gato เราสามารถสร้าง AI ระดับนั้นได้แล้ว เพียงแต่ปัญหาคือเรายังไม่มีชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ไปจนถึงคอมพิวเตอร์ที่พร้อมจะจัดการข้อมูลระดับที่จะทำให้ Gato กลายมาเป็น ‘ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป’ ได้

และนี่คือประเด็นของข้อถกเถียงทั้งหมด ถ้าจะให้สรุปคือนักวิจัย Google ยืนยันว่าตัวโมเดลพร้อมแล้ว แต่เราต้องขยายการประมวลผลให้มันใหญ่โตขึ้นไปกว่านี้อีกมากถึงจะสร้าง ‘ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป’ ได้

แต่ก็นั่นแหละ แค่ Gato เวอร์ชั่นปัจจุบันที่เล่นเกมได้สารพัด แก้ปริศนาได้ เขียนบทกวีได้ ขยับแขนกลได้ ก็โคตรหลอนแล้ว

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/brandthink.me/photos/a.1767934240198787/3350120808646781/