มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เผยคลิป สาธิตการใช้งานแว่น VR รุ่นใหม่

Share

Loading

ช่วงปลายปีที่แล้วที่ Facebook ประกาศรีแบรนด์ใหม่เป็น Meta เพื่อหันมาโฟกัสกับการพัฒนา Metaverse ตอนนั้น Meta ได้ประกาศด้วยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาแว่น VR รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นแว่นระดับไฮเอนด์ที่มีชื่อว่า “Project Cambria”

ล่าสุด มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก CEO ของ Meta ได้โพสต์วิดีโอสั้น ๆ บน Facebook และ IG เพื่อสาธิตการใช้งานแว่น VR ใหม่นี้เป็นครั้งแรก แต่น่าเสียดาย ที่ในคลิปไม่ได้มีการเปิดเผยรูปร่างหน้าตาของแว่นแต่อย่างใด โดยมีการเซ็นเซอร์แว่นไว้ตลอดวิดีโอ

สำหรับแว่นนี้ นอกจากจะเป็นแว่น VR ที่ทำให้เข้าสู่โลกเสมือนได้อย่างแว่น Meta Quest แล้ว มันยังออกแบบมาให้รองรับเทคโนโลยี AR ซึ่งก็คือการจำลองวัตถุ 3 มิติ ให้ซ้อนทับกับโลกแห่งความเป็นจริง และเมื่อเทคโนโลยี VR ผสานเข้ากับ AR จะเรียกว่า MR (Mixed Reality) นั่นเอง

ในวิดีโอนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้สาธิตการใช้งานแอปพลิเคชัน “The World Beyond” ที่จะผสมผสานภาพในโลกเสมือนเข้ากับโลกจริง ก็คือ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กำลังทำการเล่นกับสัตว์เสมือนจริงที่มีชื่อว่า Oppy ที่สามารถเกาคาง และลูบหัวได้ รวมถึงสามารถขว้างบอลไปหาได้ โดยทั้งหมดนี้ ปรากฎขึ้นบนห้องนั่งเล่น ที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กำลังยืนอยู่จริง ๆ นั่นเอง

หรืออีกหนึ่งตัวอย่างก็คือ ระหว่างที่ออกกำลังกาย เช่น เล่นโยคะ เมื่อผู้ใช้งานสวมใส่แว่น VR นี้ ก็จะสามารถเสกเทรนเนอร์ขึ้นมาตรงหน้าได้ทันที

โดยมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ระบุว่า แอปพลิเคชันนี้ ยังคงเป็นแค่ตัวต้นแบบ หรือ Demo เท่านั้น แต่จะเปิดให้นักพัฒนาเข้าไปทดลองใช้เร็ว ๆ นี้

แม้ว่าการสาธิตนี้ จะไม่ได้มีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวแว่นมากนัก แต่ทาง Meta ได้ระบุว่า แว่นระดับไฮเอนด์นี้ มีการปรับปรุงเรื่องสีให้จัดเต็มมากขึ้น เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถแยกแยะระหว่างโลกจริง และโลกเสมือนได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมีการอัปเกรดตัวกล้อง เพื่อให้ผู้สวมใส่ มองสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ดียิ่งขึ้นด้วย

สำหรับใครที่อยากเห็นรูปร่างหน้าตา หรืออยากให้งาน ก็น่าจะต้องอดใจรออีกหน่อย แต่ก็อาจจะไม่นาน เพราะมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยืนยันแล้วว่า จะเปิดในช่วงปลายปีนี้อย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องราคา แน่นอนว่าน่าจะมีราคาแพงขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าเป็นแว่น VR ระดับไฮเอนด์ โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า จะมีราคาอยู่ที่ 799 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 28,000 บาท นั่นเอง

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/MarketThinkTH/posts/5027930257299325/