ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยและ Grey Market อาจสะเทือน Tesla Motors จดทะเบียนบริษัทในไทยแล้วในนาม “บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด” เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท ตามข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
คณะกรรมการบริษัทมี 3 คนคือ
– นาย David Jon Feinstein ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงฝ่ายบุกเบิกตลาดใหม่ รวมถึงเป็นผู้บริหารระดับสูงของ Tesla อินเดีย
– นาย Yaron Klein ผู้บริหารทรัพย์สิน (Treasurer) และซีเอฟโอของ Tesla Energy Operations (เป็นบริษัทลูกของ Tesla รับผิดชอบผลิตภัณฑ์ด้านโซลาร์, Powerwall แบตเตอรี่สำหรับบ้านและโรงงาน)
– นายไวภา ตเนชา ไม่พบข้อมูล
จากข้อมูลวัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียนระบุว่า “ประกอบกิจการขายรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้งและอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้ง ระบบผลิตพลังงานและอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบพลังงาน” ซึ่งอาจใบ้ได้ว่า นอกจากรถยนต์ Tesla แล้ว อาจจะการนำแบตเตอรี่ Powerwall เข้ามาขายด้วย
อย่างไรก็ตาม ด้วยทุนจดทะเบียนแค่ 3 ล้านบาท และการไม่มีโรงงานในไทย การมาไทยของ Tesla น่าจะเป็นแค่การเข้ามาวางจำหน่ายผ่านการนำเข้าทั้งคัน (Completely Built Up: CBU) เท่านั้น ซึ่งก็อาจจะนำเข้ามาจากฮ่องกง ที่มีพวงมาลัยด้านขวาเหมือนไทย
ปัจจุบันกระทรวงการคลังเพิ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูปที่เข้ามาทั้งคันตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยราคาขายปลีกไม่เกิน 2 ล้านบาท จะลดภาษี 40% และราคาขายปลีก 2-7 ล้านบาท มีแบตเตอรี่ 30kWh ขึ้นไป ลดภาษี 20%
ทั้งนี้ทั้งนั้น การจดทะเบียนบริษัทไม่ได้แปลว่า Tesla จะเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเร็วๆ นี้เสมอไป เพราะอาจเป็นการจดทะเบียนบริษัทไว้เฉยๆ ก่อนก็ได้ ตัวอย่างเช่น Tesla Motors Singapore จดทะเบียนในสิงคโปร์ตั้งแต่กลางปี 2010 แต่กว่าจะเริ่มขายรถจริงๆ ก็เมื่อต้นปี 2021 นี่เอง ใช้เวลาเกือบ 11 ปีกว่าจะเริ่มขายรถ แต่นี่ก็เป็นขั้นแรกที่เห็นว่า Tesla อาจสนใจเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยแล้ว
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/BrandInsideAsia/posts/5981386718554637/