สหรัฐฯ ประกาศทุ่มงบประมาณพัฒนาการผลิตแบตเตอรี่รถไฟฟ้า

Share

Loading

ท่ามกลางศึกรถยนต์ไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับโอกาสทางเศรษฐกิจ, ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ, ตำแหน่งงาน และเม็ดเงินหมุนเวียนอันมหาศาล จนทำให้หลายประเทศต้องเร่งมือพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง มาแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพื่อชิงตำแหน่งผู้นำของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในยุคถัดไป

ทั้งนี้ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่จะทำให้แต่ละประเทศ สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าได้ นั่นก็คือ “แบตเตอรี่” เพราะถ้าหากมีโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตแบตเตอรี่ที่ดี จะสามารถสร้างความได้เปรียบได้ทั้งในด้านนวัตกรรมและต้นทุนค่าขนส่ง แถมยังสามารถดึงดูดให้ต่างประเทศ และแบรนด์ค่ายรถต่าง ๆ เข้ามาลงทุนสร้างฐานการผลิตรถไฟฟ้าได้อีกด้วย

จนล่าสุด สหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้มีการจัดสรรเงินทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่แปรรูป ไปจนถึงรีไซเคิลแบบครบวงจร โดยคิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 103,500 บาท) ซึ่งโจ ไบเดน ตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี ค.ศ. 2030 ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯ ทั้งหมด จะต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในสัดส่วน 50%

การลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตแบตเตอรี่ดังกล่าวจึงเป็นการเสริมความแข็งแกร่ง ให้กับระบบซัปพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ เพื่อแข่งขันกับประเทศจีน ที่อุตสาหกรรมนี้กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก ทั้งด้านเทคโนโลยี, การลงทุน, การใช้งานของผู้บริโภค, การตลาด, โครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ

เพราะถึงแม้สหรัฐฯ จะเป็นประเทศที่มีบริษัทผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla  อยู่แล้ว แต่ถ้าหากพูดถึง แบตเตอรี่ ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจหลักของรถยนต์ไฟฟ้า หลายคนคงนึกถึง “ประเทศจีน” ซึ่งผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของโลกมากกว่า

โดยปัจจุบัน ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากสุดในโลก คือ CATL จากประเทศจีนนั่งเอง ดังนั้น การผลักดันการผลิตแบตเตอรี่ในครั้งนี้ จึงถือเป็นการเดินเกมที่น่าสนใจของสหรัฐฯ ที่กำลังจริงจังและต้องการขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/MarketThinkTH/posts/5000582163367468/