อเมริกันชนกำลังจะได้ใช้ ‘ปืนอัจฉริยะ’ ที่ต้องยืนยันตัวตนก่อนลั่นไก

Share

Loading

ไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไรที่สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มี ‘ปัญหาอาวุธปืน’ มากกว่าประเทศพัฒนาแล้วใดๆ ที่ต้องพูดแบบนี้ก็เพราะอเมริกาเป็นประเทศที่คนตายเพราะปืนเยอะที่สุดในบรรดาประเทศที่เศรษฐกิจพัฒนาแล้ว ซึ่งในแง่หนึ่งมันหมายถึงคนไม่ได้ตายเพราะปืนจากปัญหาอาชญากรรมเป็นหลัก (เพราะถ้าจะนับคดีอาชญากรรม สัดส่วนคนโดนยิงตายในสหรัฐอเมริกาสู้ประเทศแถบลาตินอเมริกาไม่ได้เลย แถวนั้นคนโดนยิงตายเยอะกว่า เพราะอาชญากรรมชุกชุมกว่ามาก)

ตรงนี้เราอาจคิดว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแห่งการกราดยิงในระดับที่มีเหตุกราดยิงเกือบทุกวัน คนน่าจะตายเพราะ ‘อาชญากรรม’ จากปืนเยอะ แต่จริงๆ เมื่อดูในทางสถิติแล้ว ในอเมริกา คนตายจากปืนเพราะ ‘ฆ่าตัวตาย’ เยอะที่สุด เยอะกว่าการถูกฆาตกรรม เยอะกว่าอุบัติเหตุ และจริงๆ ประเทศนี้คือประเทศที่คนใช้ปืนฆ่าตัวตายเยอะที่สุดในโลก

การใช้ปืนฆ่าตัวตายในหลายครั้งไม่ใช่ปืนที่ตัวเองเป็นเจ้าของ แต่เป็นปืนของพ่อแม่ที่ตัวลูกๆ วัยรุ่นไปพบในบ้าน แล้วนำไปปลิดชีวิตตัวเอง และจริงๆ ในอเมริกา ปัญหา ‘ลูกเอาปืนพ่อแม่ไปใช้’ มีเยอะมากๆ เรียกได้ว่า ‘เหตุกราดยิง’ นั้นมีผู้ก่อเหตุที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งของปัญหานี้ก็เพราะอเมริกาเอง ถึงจะขายปืนกันเสรี แต่ระเบียบพื้นฐานก็คือไม่ขายให้เด็ก แม้แต่ผู้สนับสนุนสิทธิในการพกปืนที่ยังมีเหตุมีผล เขาก็ไม่ได้สนับสนุนว่าเด็กควรจะไปยุ่งเกี่ยวกับอาวุธปืน

แต่จะทำยังไงล่ะ ในเมื่อสังคมมันปืนเยอะขนาดนี้? ในเมื่อปืนเป็น ‘ของที่มีทุกบ้าน’?

คำตอบในทางเทคโนโลยีคือ ‘ปืนอัจฉริยะ’

ถามว่าปืนอัจฉริยะคืออะไร อธิบายง่ายๆ ก็คือปืนแบบในหนังไซไฟ ที่ก่อนจะยิงได้ต้องระบุตัวตนก่อนว่าผู้จะลั่นไกคือ ‘เจ้าของ’ ปืนจริงไหม ถ้าไม่ใช่ ก็จะไม่ลั่น ซึ่งกลไกการระบุตัวตนก็มีตั้งแต่เบสิกแบบอ่านลายนิ้วมือยันอ่านดีเอ็นเอ

จริงๆ นี่ไม่ใช่เทคโนโลยีล้ำสมัยอะไรเลย ในโลกเราทำได้มาหลายปีแล้วด้วยซ้ำ เฉพาะในอเมริกาช่วงสิบกว่าปีหลังก็มีสตาร์ทอัพเป็นสิบเจ้าที่พัฒนา ‘ปืนอัจฉริยะ’ มาขาย ตั้งแต่ยุคที่โลกเริ่มเห่อสารพัด ‘อุปกรณ์อัจฉริยะ’ กันแล้ว และในที่สุด ปี 2022 นี้ ‘ปืนอัจฉริยะ’ ก็จะออกมาสู่ท้องตลาดอเมริกาจนได้ ผ่านสองแบรนด์ดังคือ LodeStar และ SmartGuntz

ปืนอัจฉริยะ LodeStar นี่จะล้ำหน่อย มีระบบความปลอดภัยหลายชั้น อ่านลายนิ้วมือได้ ใส่ PIN Code ปลดล็อกเพื่อจะยิงที่ปืนก็ได้ หรือจะปลดล็อกเพื่อจะยิ่งผ่านแอปในสมาร์ตโฟนก็ได้ ส่วน SmartGuntz นี่ก็เบสิกเลยคือต้องอ่านลายนิ้วมือก่อนยิงอย่างเดียว แต่ทั้งหมดก็เพื่อเหตุผลเดียวคือ ป้องกันให้มีแต่ ‘คนที่ได้รับอนุญาต’ เท่านั้นที่จะยิงได้ ดังนั้นเราจะใส่ลายนิ้วมือไปเกิน 1 คนในบ้านก็ได้ ประเด็นคือถ้าจะไม่ให้ใครเข้าถึงปืนได้ ก็ไม่ต้องใส่ลายนิ้วมือคนคนนั้นเข้าไปในปืน

ในทางเทคโนโลยีนั้นถือว่าดีมากๆ คือมันแทบจะป้องกันไม่ให้เด็กมาเล่นปืนแล้วเกิดอุบัติเหตุ หรือเด็กแอบเอาปืนพ่อแม่ไปก่อเหตุกราดยิง แต่เท่านั้นไม่พอ มันยังทำให้ปืนที่ถูกขโมยมาไม่สามารถยิงได้อีกด้วย (อย่างน้อยก็ในทางทฤษฎี)

ก็ดังเช่นหลายๆ ‘เทคโนโลยีใหม่’ ผู้นิยมอาวุธปืนในอเมริกามีความกังขาว่าถ้าเอามาใช้จริงมันจะทำให้เขา ‘ยิงปืนได้ช้าลง’ และสามารถทำให้เขา ‘ไม่สามารถปกป้องครอบครัวและทรัพย์สิน’ ได้เวลาโจรมาปล้นบ้านหรือเปล่า? แต่ในภาพรวม พวกเขาก็ไม่ได้ ‘ต่อต้าน’ ปืนอัจฉริยะแต่อย่างใด ตราบเท่าที่รัฐจะยังไม่ ‘บังคับ’ ให้พวกเขาต้องใช้ ‘ปืนอัจฉริยะ’ แต่เพียงอย่างเดียว

สุดท้ายแล้วปืนอัจฉริยะจะช่วยลดคดีอาชญากรรม การฆ่าตัวตาย และอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับปืนในอเมริกาได้หรือไม่ เราก็คงต้องจับตาดูสถิติกันต่อไปอย่างน้อยๆ ก็อีก 2-3 ปี

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/brandthink.me/photos/a.1767934240198787/3351794555146073/