สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างขวางและมีเส้นแบ่งชายแดนที่ติดกับประเทศเม็กซิโกที่ยาวเหยียดหลายพันกิโลเมตร ซึ่งก็ได้ให้สำคัญอย่างมากต่อการลาดตระเวนตรวจตราตามแนวชายแดนนี้ จะเห็นได้ว่าในสมัยที่โดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี เขาก็มีความพยายามที่จะสร้างกำแพงกั้นตามแนวชายแดนเม็กซิโกเพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐอเมริกา (ดีเอชเอส) ได้ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการทดลองใช้ ‘หุ่นยนต์สุนัข’ เดินลาดตระเวนตามแนวชายแดน โดยมีภารกิจหลายแบบ เน้นให้พวกมันทำหน้าที่สอดส่องและเฝ้าระวัง ซึ่งทางดีเอชเอสก็กล่าวด้วยว่าการทดลองครั้งนี้ประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังไม่ได้มีการกำหนดวันเวลาว่าจะให้พวกมันทำหน้าที่เต็มรูปแบบจริงๆ เมื่อไร
หุ่นยนต์ที่ว่านี้ได้รับการออกแบบและผลิตโดย บริษัทโกส โรบอทติกส์ (Ghost Robotics) คู่แข่งทางการค้าของ บริษัท บอสตัน โรบอทติกส์ (Boston Robotics) ซึ่งเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากกว่า โดยหุ่นยนต์สุนัขที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของ Ghost Robotics มีชื่อว่า ‘Vision 60’ มีความสูง 76 เซนติเมตร น้ำหนัก 32 กิโลกรัม สามารถเดินทางได้ 12 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง และสามารถตั้งโปรแกรมให้ลาดตระเวนในพื้นที่ที่กำหนดหรือจะควบคุมผ่านอุปกรณ์วิทยุก็ได้ นอกจากนี้ทางบริษัทเคยเปิดเผยภาพที่มีการติดปืนไรเฟิลซุ่มยิง (Sniper Rifle) เข้ากับตัวหุ่นยนต์ ทำให้หลายคนมองว่าหุ่นยนต์สุนัขตัวนี้นั้นน่ากลัวกว่าที่คิด
อย่างไรก็ตาม นักการเมืองและกลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิมนุษยชนได้วิพากษ์วิจารณ์การใช้หุ่นยนต์ในลักษณะดังกล่าวของดีเอชเอสว่า “เป็นการกระทำที่ลดทอนความเป็นมนุษย์” พร้อมยกตัวอย่างว่าแม้แต่เจ้าหน้าที่ของศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐอเมริกาเองก็ยังมีชื่อเสียงไม่ดีเกี่ยวกับการมีพฤติกรรมที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ของกลุ่มผู้อพยพ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าดีเอชเอสจะคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนในการใช้งานสุนัขหุ่นยนต์ในลักษณะดังกล่าว และจะมั่นใจได้อย่างไรว่าแผนการนี้จะไม่นำไปสู่การพัฒนาและใช้หุ่นยนต์ในการทำสงครามหรือใช้ในทางที่ผิดๆ
อย่างไรก็ตาม โฆษกของดีเอชเอสก็ออกมาชี้แจงว่าแผนการใช้หุ่นยนต์สุนัขในครั้งนี้เป็นเพียงการ ‘เพิ่มกำลัง’ เพื่อช่วยลดภาระการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้น ไม่ต่างจากการใช้โดรนหรือเครื่องมืออื่นๆ ในการปฏิบัติการเหมือนที่ผ่านมา
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/brandthink.me/photos/a.1767934240198787/3390587001266828/