รัฐบาลจีนมีแผนปฏิบัติการที่จะลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึงระดับสูงสุดก่อนปี 2030 ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากจีนจะพยายามเร่งผลักดัน รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถอีวี จนปัจจุบันมียอดขายกว่าปีละ 3.3 ล้านคัน คิดเป็นสัดส่วนถึง 20% ของยอดขายรถทั้งหมด
หลังจากที่จีนต้องดิ้นรนผ่านฤดูร้อนที่ร้อนและแห้งแล้งที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งทำให้พืชผลเหี่ยวเฉา ทำให้แม่น้ำและแหล่งกักเก็บน้ำที่ใช้สำหรับการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำหดตัว
ล่าสุด รัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลไห่หนานที่อยู่ทางใต้ของจีน กำลังจะกลายเป็นมณฑลแรกของประเทศ ที่จะยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์สันดาปเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี 2030 นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้าจะยิ่งได้รับการส่งเสริม ทั้งการลดหย่อนภาษีและการขยายเครือข่ายการชาร์จ
“ภายในปี 2030 ทั้งมณฑลจะห้ามการขายรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง” ข้อความที่ระบุในแผนงานของมณฑลไห่หนาน
โดยมณฑลไห่หนานตั้งเป้าให้มีรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 45% ของรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2030 และเมืองต่าง ๆ จะพัฒนาเป็น เขตปลอดการปล่อยมลพิษ ซึ่งยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันจะถูกแบน และปัจจุบัน กว่า 50% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกมาจากประเทศจีน
แหล่งข้อมูล