คนไทยกำลังจะเลิกใช้ “เงินสด” และจ่ายด้วยระบบดิจิทัล (Cashless Society)

Share

Loading

Mastercard ได้เผยถึงสถิติการใช้ระบบดิจิทัลชำระค่าบริการต่างๆ ซึ่งคนไทยกว่า 94% เคยใช้ระบบดิจิทัล และใช้บ่อยครั้งกว่าประเทศอื่นๆภูมิภาคอาเซียน เช่น ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เวียดนาม และนี่เป็นสัญญานของสังคมไทยไร้เงินสด (Cashless Society)

ผลสำรวจของ Mastercard ที่ได้เก็บพฤติกรรมการทำธุรกรรมและวิธีการชำระเงินที่ผู้บริโภคนิยมซึ่งมีประเทศออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เวียดนาม และไทย ผลสำรวจได้ถูกเก็บในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม 2021 ถึงเดือนเมษายน 2022

ผลสำรวจรายงานว่าคนไทย 81% ทำธุรกรรมอย่างน้อย 1 รูปแบบผ่านเครื่องมือดิจิทัล โดยธุรกรรมที่มีการใช้งานมากที่สุดได้แก่ การชำระค่าบริการ 71% , ธุรกรรมธนาคาร 75% และการเปิดบัญชีธนาคารใหม่ 64%

นอกจากนี้ ยังพบว่าคนไทยที่เคยใช้ระบบดิจิทัลเพื่อชำระค่าบริการต่าง ๆ อย่างน้อย 1 รูปแบบคิดเป็น 94% ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่อยู่ที่ 88%

นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 80% เพิ่มการใช้งานระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลอย่างน้อยอีก 1 รูปแบบในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนรูปแบบการชำระเงินที่มีการใช้งานมากที่สุด ได้แก่ Digital Wallets 63% , การชำระเงินผ่านการโอนเข้าบัญชี 55% และ QR code 54%

เหตุผลที่ผู้บริโภคใช้ระบบดิจิทัลในการชำระค่าบริการ ได้แก่ เพราะความสะดวกสบาย 85% ความปลอดภัย 61% และช่วยให้สามารถควบคุมเงินได้มากขึ้น 56% ทั้งนี้ ผู้บริโภคบางส่วนยังมีความกังวลด้านความปลอดภัย

ข่าวร้ายของ Contactless Payment หรือการจ่ายไร้สัมผัสในประเทศไทย

ล่าสุดก็มีสัญญานหนึ่งออกมาเกี่ยวกับ ShopeePay ที่ปิดบริการ Shopee Pay Card ซึ่งเป็น Contactless Payment ที่สามารถใช้ได้ทั้งบนแอปฯ และออฟไลน์หน้าร้าน โดยการใช้การเติมเงินเข้าไปในบัตรและสามารถจ่ายได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องสมัครบัตรเดบิตให้ยุ่งยากก็สามารถจ่ายด้วยบัตรนี้ได้ แต่ด้วยหลากหลายสาเหตุที่ทำให้ Shopee Pay Card ไม่ได้ไปต่อ ดังนี้

ถึงจะมีโปรโมชั่นต่างๆกับทาง Shopee Pay Card แต่ร้านค้าส่วนใหญ่ไม่ได้สอนหรือเทรนพนักงานเกี่ยวกับการจ่ายแบบนี้ และส่วนใหญ่พนักงานจะปฏิเสธเนื่องจากทำไม่เป็นทั้งๆที่เครื่องรองรับ และร้านค้าส่วนใหญ่มีการเรียกเก็บชาร์จ 2-3% จากการใช้บัตรเครดิต คนจึงหันไปใช้การสแกน QR โอนเงินจากธนาคารมากกว่า

ประเทศไทยได้ถูกสนับสนุนให้ใช้ QR Payment มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นแอปฯเป๋าตัง หรือการสแกนจ่ายพร้อมเพย์ของร้านค้าต่างๆที่คุ้นเคย จึงไม่คุ้นเคยกับการสแกนจ่ายแบบ EDC ซึ่งอาจเข้าใจผิดว่ายุ่งยากและบางร้านไม่นิยมใช้

ข้อดีของ Contactless Payment

จริงแล้ว QR Payment มีความจำเป็นต้องมีสมาร์ทโฟนที่มีอินเทอร์เน็ต , มีกล้องหลังที่สามารถโฟกัสได้ชัด ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้คนบางกลุ่มที่ไม่มีโทรศัพท์ที่ดีพอ อาจยุ่งยากสำหรับใครบางคน

แต่ Contactless Payment ไม่จำเป็นต้องใช้กล้องใดๆ มีเพียงบัตรที่รองรับหรือบัตรเสมือนจริงในโทรศัพท์มมือถือก็สามารถจ่ายเงินได้แล้ว ซึ่งยังจะช่วยให้ผู้สูงอายุที่ไม่รู้เรื่องเทคโนโลยีใช้ได้ง่ายขึ้นกว่าในปัจจุบันอีกด้วย

หลากหลายบริษัทและแบรนด์ต่างๆเริ่มหันมาให้บริการการชำระเงินไร้สัมผัส เช่น บัตรเครดิต KTC สามารถแตะชำระค่ารถเมล์ได้แล้ว , แอปฯ BlueConnect ที่ร่วมกับ KBank ก็สามารถชำระค่าน้ำมันผ่านแอปฯได้แล้ว , ศูนย์อาหารที่ศูนย์สิริกิติ์โฉมใหม่ ซื้อบัตร Cash Card ด้วยบัตรเครดิตได้ด้วยตนเอง และรองรับ Contactless Card

และนี่เป็นสัญญานที่ชัดเจนว่าประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ “สังคมไร้เงินสด” อย่างแท้จริง เนื่องจากมีการสนับสนุนมากขึ้นจากองค์กรและบริษัทใหญ่ต่างๆทั้งบัตรเครดิต , ร้านค้า,ร้านอาหาร ที่รองรับการชำระเงินหลากหลายรูปแบบ และในอนาคตคนไทยอาจใช้เงินสดจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันน้อยลง และประเทศไทยจะกลายเป็น “สังคมไทยไร้เงินสด” ในที่สุด

แหล่งข้อมูล

https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/830234