เทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยพัฒนาให้การเรียนรู้นั้นเปลี่ยนไป ซึ่งหุ่นยนต์อัจฉริยะ (Robotics) จะเข้ามาทำให้เด็กเล็กยุคใหม่สามารถพัฒนาการเรียนรู้ได้รวดเร็วและง่ายกว่าเดิม และนี่คือสิ่งที่พ่อแม่และคนที่กำลังจะมีลูกควรศึกษาและเรียนรู้ไว้
หุ่นยนต์ช่วยสอน (Robotics) เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจที่กำลังจะเข้ามาทำให้การเรียนรู้ของวัยเด็กเล็กหรือปฐมวัยนั้นเปลี่ยนไป พ่อแม่ผู้ปกครองจะสามารถใช้หุ่นยนต์มาช่วยเสริมสร้างและพัฒนาการเรียนรู้ได้ดีและง่ายขึ้นกว่าเดิม
และที่สำคัญหุ่นยนต์เหล่านี้ เพิ่มความสนุกสนานให้เด็กๆพร้อมกับผสานไปกับการเรียนรู้ได้อย่างแนบเนียน แน่นอนว่าเด็กๆจะชื่นชอบการเรียนรู้กับหุ่นยนต์มากกว่าการท่องตำราอย่างแน่นอน
ทำไม? หุ่นยนต์ (Robotics) จะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในอนาคต
หุ่นยนต์และ AI (ปัญญาประดิษฐ์) ถูกนำมาใช้แล้วในด้านต่างๆ เช่น การแพทย์ การผลิต การขนส่ง การสำรวจ งานคำนวณและวิเคราะห์ งานบ้าน GPS และอื่นๆ อีกมากมาย การใช้งานจะเพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลาย
แต่ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้คือ “หุ่นยนต์ช่วยสอน” ที่อนาคตการใช้หุ่นยนต์จะกลายเป็นเรื่องปกติในไม่ช้าเนื่องจากหุ่นยนต์สามารถทำให้เด็กเรียนรู้ได้ถึง 4 ด้าน Science, Technology, Engineering and Mathematics หรือย่อสั้นๆคือ STEM ซึ่งหุ่นยนต์สำหรับเด็กส่วนใหญ่จะมีแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ด้วย
หุ่นยนต์ช่วยสอน (Robotics) ดีกว่าครูผู้สอนอย่างไร?
หุ่นยนต์ช่วยสอน สามารถสอนให้เด็กสามารถเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐานได้หรือเขียนโค้ดได้ง่ายกว่า , งานวิจัยของแคมบริดจ์ได้เปิดเผยว่า หุ่นยนต์สามารถทำให้เด็กๆเปิดเผยเกี่ยวกับสุขภาพจิตมากขึ้นเมื่อพูดคุยกับหุ่นยนต์ ยังมีหุ่นยนต์อีกหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ช่วยสอนวาดภาพ , คณิตศาสตร์ ซึ่งเราสามารถนำมาปรับใช้เพื่อการพัฒนาของเด็กที่ดีและง่ายกว่าเดิม
ตัวอย่างของหุ่นยนต์ช่วยสอน (Robotics) ที่ใช้งานได้จริงและมีจำหน่ายแล้วในปัจจุบัน
Moxie หุ่นยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับเด็กต้องการช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางสังคม อารมณ์ และสติปัญญา จุดเด่นของ Moxie นั้นจะมีหลายโหมดการพูดคุย จะช่วยสอนทั้งเรื่อง ความเมตตา มิตรภาพ การเอาใจใส่หรือความเคารพ และจะยังมีกิจกรรมให้เด็กเล่นด้วย เช่น การวาดรูป การฝึกสติผ่านการฝึกหายใจและการทำสมาธิ อ่านหนังสือกับ Moxie ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เด็กได้ฝึกการฟังอย่างตั้งใจ การควบคุมอารมณ์ การเอาใจใส่ การจัดการความสัมพันธ์ และการแก้ปัญหา
ในอนาคตอีกไม่นานนี้ “หุ่นยนต์ช่วยสอน” ยังอาจพัฒนามาสู่การช่วยเหลือวัยผู้ใหญ่ ซึ่งหุ่นยนต์อาจสามารพูดคุยและปรึกษาด้านสุขภาพจิตต่างๆได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการพูดคุยกับหุ่นยนต์สามารถเปิดเผยเรื่องส่วนตัวได้ง่ายกว่าพูดคุยกับคน และหุ่นยนต์เนื่องจากมีระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) ที่สามารถเรียนรู้และให้คำปรึกษาได้ไม่ต่างจากนักจิตวิทยา
แหล่งข้อมูล