3M แจ้งว่า บริษัทจะหยุดผลิต PFAS สารเคมีที่ทนทานในทุกสภาพแวดล้อม ใช้งานตั้งแต่ผ้าเช็ดน้ำมันจนถึงชิปเซ็ต อาจสูญเสียรายได้กว่า 45,000 ล้านบาท ที่เคยทำได้ในปี 2021 เหตุทุกฝ่ายกดดันให้เลิกเพราะเป็นสารก่อมะเร็ง
3M แจ้งอย่างเป็นทางการว่า ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป บริษัทจะหยุดการผลิต PFAS หรือ Perfluoralkyl กับ Polyfluoroalkyl กลุ่มสารเคมีที่มีความทนทานในทุกสภาพแวดล้อม และยากต่อการเสื่อมสลาย ถูกใช้งานในสิ่งของในชีวิตประจำวันมากมาย เช่น ผ้าเช็ดคราบน้ำมัน, โทรศัพท์มือถือ และชิปเซ็ตต่าง ๆ
เหตุผลที่ 3M ประกาศยุติการผลิต PFAS เพราะถูกกดดันจากทุกฝ่าย ไล่ตั้งแต่ผู้ถือหุ้น, องค์กรอิสระ และทางการของเมืองต่าง ๆ ผ่านการอ้างเรื่องความอันตรายที่มาจากสารดังกล่าว เช่น เป็นพาหะในการก่อให้เกิดโรคมะเร็ง และ โรคหัวใจ เป็นต้น ทั้งยังเริ่มถูกพบในน้ำดื่ม, อาหาร และในดินของพื้นที่ต่าง ๆ
ตัวอย่างคือ เมื่อเดือน พ.ย. 2022 ทาง 3M และ DuPont คือส่วนหนึ่งขององค์กรที่ถูกทางการรัฐ California ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการกำจัดสารเคมีดังกล่าว รวมถึงฝั่งผู้ถือหุ้นของ 3M ยังต้องการให้บริษัทยุติการผลิตสารเคมีดังกล่าว เพื่อให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากกว่านี้
ปัจจุบัน 3M คือองค์กรที่ผลิตสารเคมี PFAS ใหญ่ที่สุดในโลก โดยในปี 2021 บริษัทสร้างรายได้กว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 45,000 ล้านบาท มีอัตรากำไร EBITDA ที่ 16% และคิดเป็น 3.7% ของรายได้รวมทั้งองค์กร 3M ที่ 35,400 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.22 ล้านล้านบาท
ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมผลิตสารเคมี เพราะทุกองค์กรหลังจากนี้ต้องหาสารเคมีมาทดแทน PFAS กลายเป็นความท้าทายใหม่ที่ต้องหาสารที่มีประสิทธิภาพสูงมาใช้ในสิ่งของในชีวิตประจำวัน แต่ก็น่ายินดีที่องค์กรอย่าง 3M และองค์กรอื่น ๆ เริ่มหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม และทำธุรกิจโดยเน้นเรื่องความยั่งยืน
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/BrandInsideAsia/photos/a.1505585296134824/6625428297483806/