เทคโนโลยีสุดเจ๋ง รถแทรกเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ช่วยชีวิตเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น

Share

Loading

รถแทรกเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมเทคโนโลยีที่จะมาช่วยชีวิตอาชีพเกษตรกรให้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากทั้งประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง มีระบบอัตโนมัติพร้อมวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับพืชพันธุ์และดิน และสามารถช่วยเพิ่มผลกำไรได้อีกด้วย

รถแทรกเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ล่าสุดได้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Monarch โดยรุ่นแรกมีชื่อว่า MK-V ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าและระบบ AI อัตโนมัติเพื่อช่วยวิเคราะห์ดิน ปรับปรุงความปลอดภัยของพื้นที่แปลงไร่

ความน่าสนใจของรถแทรกเตอร์ไฟฟ้าคันนี้ มีอะไรบ้าง?

หากใช้รถแทรกเตอร์ในพื้นที่ไร่ทั่วไปซึ่งเป็นรถเชื้อเพลิงดีเซล จะช่วยลดคาร์บอนเทียบเท่ากับการนำรถโดยสาร 14 คันบนถนน ซึ่งเรียกได้ว่าสูงมาก และเป็น 25% ของมลพิษโลก

รถแทรกเตอร์ไฟฟ้า MK-V ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% หรือเรียกได้ว่าเป็นรถ BEV นั่นเอง ทำให้ไม่มีการปล่อยไอเสียที่ทำให้ฟาร์มหรือพื้นที่ไร่ปนเปื้อน และยังทำงานแบบ 3 in 1 คือ ทำได้ทั้งเป็นรถแทรกเตอร์พร้อมทั้งยังเป็นรถอเนกประสงค์ และเป็นเครื่องมือไฟฟ้าได้อีกด้วย

ความอัจฉริยะของรถแทรกเตอร์ไฟฟ้า MK-V คือการนำเทคโนโลยีของ AI ภายใต้ Nvidia Jetson Edge AI สามารถทำงานที่ตั้งตามโปรแกรมไว้ล่วงหน้าได้ และยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยช่น การป้องกันการพลิกคว่ำและการชนกัน ความปลอดภัยในการปิดเครื่องด้วยการมองเห็น (PTO) และกล้อง 360° เพื่อให้การปฏิบัติงานดำเนินไปอย่างราบรื่นและพนักงานปลอดภัยทั้งกลางวันและกลางคืน

Deep Learning & Sensing Suite: MK-V รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการเพาะปลูกทุกวันและสามารถประมวลผลข้อมูลจากอุปกรณ์ปัจจุบันและรุ่นต่อไปที่ติดตั้งเซ็นเซอร์และภาพ ข้อมูลนี้สามารถใช้สำหรับการปรับเปลี่ยนการใช้งานตามเวลาจริง การประมาณการผลผลิตระยะยาว ระยะการเจริญเติบโตในปัจจุบัน และตัวชี้วัดสุขภาพพืช/พืชผลอื่น

การทำงานของอุปกรณ์อัจฉริยะ: ผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ส่วนตัว ผู้ใช้ MK-V จะได้รับการแจ้งเตือนสถานะของรถแทรกเตอร์ รายงานการดำเนินงานโดยละเอียด ตลอดจนการรวบรวม การวิเคราะห์ และการจัดเก็บข้อมูลเพื่อการวางแผนฟาร์มที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของ Monarch สามารถให้พลังงานต่อเนื่องได้ 40 แรงม้า (30KW) และกำลังสูงสุดในระยะเวลาสั้นถึง 75 แรงม้า (55KW) ในพื้นที่ขนาดเล็กสำหรับการใช้งานอเนกประสงค์

และนี่เป็นเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจและคาดว่าหากประเทศไทยนำมาปรับใช้หรือรัฐบาลสนับสนุน ก็จะทำให้โครงการคาร์บอนหรือการลดมลพิษเป็นไปได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเกษตรกรในประเทศไทยมีจำนวนมาก

แหล่งข้อมูล

https://www.springnews.co.th/digital-tech/auto/833073