Muttersholtz หมู่บ้านเล็ก ๆ ในฝรั่งเศสที่มีความสุขเพราะค่าไฟถูก

Share

Loading

ขอแบบนี้บ้างได้ไหม! Muttersholtz หมู่บ้านในฝรั่งเศสที่เริ่มหันไปใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างเต็มกำลังเพื่อลดภาระค่าไฟ โดยอาศัยพลังงานน้ำกับพลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก

ปัญหาค่าไฟแพง เป็นปัญหาที่ทุกประเทศต้องพบเจออยู่บ่อยครั้ง ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นที่เรียกร้องรัฐเรื่องค่าไฟแพง ต่างประเทศแม้จะเงินเดือนประชาชนค่อนข้างที่จะสูงกว่าไทย แต่ค่าน้ำค่าไฟสูงตามไปด้วยโดยเฉพาะ Muttersholtz หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสก็เคยประสบกับปัญหานี้เช่นเดียวกัน

สำนักข่าวในยุโรป EURONEWS รายงานว่าค่าไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นทั่วฝรั่งเศสตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำเอาหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ที่มีประชากรเพียง 2,200 คน ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

แต่ปัญหานี้ได้หมดไปแล้ว เมื่อพวกเขาเปิดใจนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้แบบครบวงจรและพบว่าค่าไฟของพวกเขาลดต่ำลงทุกปีจนแทบจะเหลือศูนย์บาทแล้ว

เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ได้สร้างกังหัน 3 ตัวบนแม่น้ำ หุ้มฉนวนอาคารเทศบาล และติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาของอาคารหลายหลัง ซึ่งในช่วงแรกพวกเขาต้องตัดสินใจจ่ายค่าติดตั้งและอุปกรณ์ไปมากกว่า 2 ล้านยูโร นั่นหมายความว่าเมืองนี้ได้หันไปพึ่งพลังงานน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์แทน และผลตอบรับเริ่มเห็นผลแล้ว

การใช้ไฟของเทศบาลลดลงร้อยละ 40 ในช่วงปีพ.ศ. 2551-2563 อาคารสาธารณะ เช่น โรงเรียนและสำนักงานสภาก็ใช้ไฟฟ้าไปเพียง 10% จากที่ผลิตได้ และสภาก็ขายส่วนที่เหลืออีก 90% ออกไป แม้พลังงานหมุนเวียนตรงนี้จะไม่ได้ใช้สำหรับบ้านส่วนตัวของผู้คนในหมู่บ้าน แต่สภาก็กำลังขยายการใช้งานออกไปเร็ว ๆ นี้แล้ว แต่พอสภาจ่ายค่าไฟน้อยลงประชาชนก็ได้รับผลตามไปด้วย

Julien Rodrigues หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของเมืองกล่าวว่า “เรายังไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าถึง ซึ่งจะเป็นขั้นตอนต่อไป แต่ในขณะนี้จะครอบคลุมเฉพาะความต้องการของเทศบาลเท่านั้น”

พลังงานหมุนเวียนผลิตได้ 900 เมกะวัตต์/ชั่วโมง เพื่อให้ครอบคลุมบ้านส่วนตัวและธุรกิจในหมู่บ้าน พวกเขาต้องการผลผลิต 14 เท่าของผลผลิตนี้ ซึ่งจะต้องใช้กังหันลมสองตัว หรือพื้นที่เท่ากับสนามฟุตบอลเจ็ดแห่งของแผงโซลาร์เซลล์ อย่างไรก็ตาม มันช่วยรัฐบาลท้องถิ่นประหยัดเงินได้มาก

รัฐประหยัดไฟไปได้ 43,000 ยูโรต่อปี แถมการขายไฟยังได้กำไรเพิ่มขึ้นอีก 60,000 ยูโร แม้ว่าจะมีค่าบำรุงรักษาก็ตาม นอกจากนี้เมืองนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นหมู่บ้านแห่งความหลากหลายทางชีวภาพของฝรั่งเศสในปี 2560 จากการบุกเบิกใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานน้ำ คนในท้องที่ก็เห็นดีเห็นงามด้วย

“เราไม่มีค่าไฟฟ้าอีกต่อไป เราแค่ต้องเสียภาษีสำหรับการใช้เครือข่ายสาธารณะ มีหลายคนถามคำถามว่า ‘คุ้มไหมที่จะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดจิ๋ว? แม้ว่าจะเป็นเครื่องมือที่ดีมากก็ตาม วันนี้ เราเห็นว่าตัวเองได้รับผลตอบแทนอย่างเต็มที่ เรารู้แล้วว่าเรามาถูกทางแล้ว…มันเหลือเชื่อมาก” Michel Renaudet รองนายกเทศมนตรีคนแรกของ Muttersholtz กล่าว

แหล่งข้อมูล

https://www.springnews.co.th/keep-the-world/energy/835821