จะเกิดอะไรขึ้น หาก ChatGPT เทคโนโลยี AI ที่มีความสามารถทางด้านภาษา กลายเป็น “ผู้เขียน” หนังสือ และได้รับการตีพิมพ์และวางขาย ให้กับนักอ่าน
ล่าสุด เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงแล้ว เพราะสำนักข่าว Reuters พบว่า หนังสือกว่า 200 เล่ม ที่วางขายอยู่บนร้านหนังสือออนไลน์ Kindle ของ Amazon มีการระบุรายละเอียดว่า มี ChatGPT เป็นผู้เขียนร่วม (Co-Author) และคาดการณ์ว่า ในความจริงแล้ว หนังสือที่ใช้ ChatGPT มีส่วนร่วมในการเขียน อาจมีจำนวนมากกว่านี้ เพราะตามกฎของ Amazon ไม่ได้บังคับให้เจ้าของหนังสือ ระบุว่ามีการใช้ ChatGPT หรือเทคโนโลยี AI ในลักษณะเดียวกัน เป็นผู้เขียนร่วมแต่อย่างใด
ส่วนประเภทของหนังสือ ที่พบได้บ่อย ๆ ว่ามีการใช้ ChatGPT หรือ AI ในลักษณะเดียวกัน เป็นผู้เขียน ก็คือหนังสือสำหรับเด็กและเยาวชน โดยนักเขียนหนังสือสำหรับเด็กคนหนึ่ง ยอมรับว่า เขาใช้ ChatGPT ในการช่วยเขียนหนังสือจริง โดยป้อนคำสั่งให้ ChatGPT “เขียนหนังสือสำหรับเด็ก ที่เกี่ยวกับคุณพ่อ สอนลูก ๆ ในเรื่องความรู้ทางการเงิน”
ในท้ายที่สุดแล้ว เขาก็นำเรื่องราวที่ ChatGPT เป็นผู้เขียน มาวาดเป็นภาพ และกลายเป็นหนังสือสำหรับเด็ก ความยาว 30 หน้า โดยใช้ชื่อเรื่องว่า “The Wise Little Squirrel: A Tale of Saving and Investing”
อย่างไรก็ตาม แม้การใช้ ChatGPT ในการเป็นตัวช่วย “เขียนหนังสือ” จะดูเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น แต่ในมุมมองของคนในวงการหนังสือ กลับมีความกังวลในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย เพราะหนังสือที่ถูกเขียนขึ้นโดย ChatGPT จะเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก..
รวมถึงการจัดการกับการใช้ ChatGPT ในการเขียนหนังสือ จะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ทั้งจากผู้เขียนเอง รวมถึงแพลตฟอร์ม และร้านขายหนังสือออนไลน์ต่าง ๆ ไม่เช่นนั้นในอนาคต วงการหนังสืออาจเต็มไปด้วยหนังสือที่ไม่มีคุณภาพ
นอกจากนี้ ยังมีการรายงานด้วยว่า สำนักพิมพ์บางแห่ง พบว่าในระยะหลัง ๆ มีการส่งต้นฉบับหนังสือที่ถูกเขียนโดย ChatGPT เข้ามาให้สำนักพิมพ์ เป็นจำนวนมาก จนสำนักพิมพ์ต้อง ยุติการรับต้นฉบับหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือประเภทเรื่องสั้น เป็นการชั่วคราว และทำการแบนผู้เขียนหนังสือไปราว 500 คน ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน เพราะสงสัยว่ามีการใช้ ChatGPT ในการเขียนหนังสือ ซึ่งทางสำนักพิมพ์ ก็ยอมรับว่า หนังสือที่ถูกเขียนขึ้นโดย ChatGPT จะมีรูปแบบเฉพาะบางอย่าง ที่ทำให้จับได้
สาเหตุที่ทำให้บรรดาสำนักพิมพ์ หรือคนในวงการหนังสือ ต่างเป็นกังวลกับการมาของเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะ ChatGPT นั้น ก็เป็นเพราะเทคโนโลยี AI ในลักษณะนี้ ได้รับการฝึกฝน โดยอาศัยข้อมูลต่าง ๆ ที่มนุษย์ เป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้น โดยที่เจ้าของผลงาน หรือเจ้าของความรู้นั้น ไม่ได้ยินยอม แถมเทคโนโลยี AI ในลักษณะนี้ ยังมีความ “มั่นใจ” ในระดับสูง แม้ข้อมูลที่ AI สร้างมา จะเป็นข้อมูลที่มีความผิดพลาด อย่างร้ายแรงก็ตาม..
อย่างไรก็ตาม แม้ในปัจจุบัน ChatGPT จะยังเป็นเหมือนดาบสองคม ที่ทำให้หลาย ๆ คนตื่นเต้นกับความสามารถ รวมถึงกังวลกับการนำเทคโนโลยีไปใช้งานในทางที่ไม่ถูกต้อง
แต่ในโลกของ “คอนเทนต์” ออนไลน์ เว็บไซต์ผลิตคอนเทนต์ชื่อดังอย่าง BuzzFeed เพิ่งจะประกาศความร่วมมือกับ OpenAI บริษัทผู้พัฒนา ChatGPT ในการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้ในการเป็นตัวช่วยสร้างสรรค์คอนเทนต์ต่าง ๆ บนเว็บไซต์ เช่น คำถาม (Quiz) และคอนเทนต์ ที่ได้รับการปรับแต่ง ให้เหมาะสมกับผู้อ่านแต่ละคน
แม้พนักงานหลาย ๆ คน จะไม่เห็นด้วย เพราะกลัวว่าเทคโนโลยี AI จะเข้ามาแย่งงาน แต่ CEO ของ BuzzFeed ก็ยืนยันว่า AI จะเข้ามาช่วยให้พนักงาน สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ดียิ่งขึ้น และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับแผนการลดจำนวนพนักงาน แต่อย่างใด..
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/MarketThinkTH/photos/a.1393665140725873/5855903371168672/