โธมัส เอบราฮิมี
การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของการผลิตนั้นสมควรเรียกว่าเป็นการปฏิวัติอย่างหนึ่ง เนื่องจากมีวิธีการมากมายนับไม่ถ้วนที่กำลังเปลี่ยนแปลงระบบทั้งเล็กและใหญ่ การปฏิวัติอุตสาหกรรมสามครั้งแรกเปลี่ยนธรรมชาติของแรงงานและความสัมพันธ์ของมนุษย์กับธรรมชาติ ส่วนการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ (หรือ 4IR) ถึงแม้จะคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีข้อแตกต่างที่สำคัญ
4IR เปิดให้เห็นโอกาสที่ไม่เหมือนใครในการเปลี่ยนแปลงระบบของเราเพื่อพัฒนาและปกป้องโลกใบนี้ ผู้คน และคุณภาพชีวิต 4IR เป็นโอกาสสำหรับเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเท่าเทียมที่มากขึ้นทั่วโลก ตั้งแต่ห่วงโซ่อุปทานที่อัจฉริยะมากขึ้นจนถึงการยกระดับฝีมือแรงงาน
สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
เนื่องจากประชากรโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้นอุปสงค์และผลกระทบของการผลิตก็ย่อมส่งผลกระทบต่อโลกด้วยเช่นกัน ความสมดุลของการผลิตกับโลกใบนี้เป็นหัวใจสำคัญของอาชีพทางวิชาการและวิชาชีพของ ดร. อิเนซ ฮัว (Dr. Inez Hua) ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมโยธา สิ่งแวดล้อม และนิเวศวิทยาที่มหาวิทยาลัยเพอร์ดู (Purdue University) และตอนนี้ ดร.ฮัว ใช้เวลาช่วงพักเป็นเวลาหนึ่งปีในการเป็นที่ด้านวิศวกรรมให้กับ Western Digital งานวิจัยของเธอนั้นเกี่ยวข้องกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในระบบอุตสาหกรรมและการผลิต ซึ่งเธอมองเห็นโอกาสที่สร้างแรงบันดาลใจ
ดร.ฮัว กล่าวว่า “ฉันคิดว่ามันเป็นแรงผลักดันที่ดีเพราะฉันเห็นความยั่งยืนเป็นดั่งมุมมองที่ช่วยยกระดับการผลิต” อีกหนึ่งประเด็นหนึ่งที่เธอสนใจก็คือเศรษฐกิจหมุนเวียนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฮาร์ดไดรฟ์ จะไปอยู่ที่ไหนตลอดวงจรชีวิต
“ณ ตอนนี้ การผลิตดำเนินไปในทิศทางเดียว เรามีวัสดุและส่วนประกอบไปยังที่หนึ่ง และตัวผลิตภัณฑ์ไปอีกที่หนึ่ง” ดร.ฮัวกล่าว “สิ่งที่เรายังไม่มีคือความสามารถในการกู้คืนผลิตภัณฑ์และส่งกลับด้วยวิธีการอื่นๆ อย่างไรก็ตาม 4IR จะทำให้เราเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้เหล่านั้น” เธอเชื่อว่าผู้ผลิตสามารถลดภาระของคนบนโลกได้โดยใช้เทคโนโลยี 4IR เป็นตัวขับเคลื่อน
ดร.ฮัว กล่าวอีกว่า “ฉันคิดว่า 4IR ได้ไม่จำกัดเฉพาะแค่ในขั้นตอนการผลิตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวงจรชีวิตโดยรวมของผลิตภัณฑ์ด้วย เห็นได้ชัดว่า 4IR มีส่วนช่วยในการผลิต แต่ฉันคิดว่ามันช่วยทำให้เราสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้นจากวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ไม่ใช่แค่เรื่องของการผลิตเท่านั้น” และยังกล่าวอีกว่า “มันเริ่มจากการแยกวัสดุไปจนถึงจุดสิ้นสุดของชีวิต”
ดร.ฮัวเน้นย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะครอบคลุมในวงกว้าง รวมถึงการผลิตแบบเติมเนื้อวัสดุผ่านเครื่องพิมพ์ 3 มิติ และการปรับเส้นทางของห่วงโซ่อุปทานให้ดียิ่งขึ้นผ่านเครือข่ายแบบกระจาย สิ่งสำคัญต่อความสำเร็จของโปรแกรมทั้งหมดคือความสามารถในการรวบรวมและดำเนินการกับข้อมูล
“ถ้าคุณมีระบบอัจฉริยะที่ช่วยคุณตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลาง สิ่งนั้นสามารถสร้างความแตกต่างได้เปอร์เซ็นต์หรือสองเปอร์เซ็นต์” ดร.ฮัวกล่าว “มันเหมือนกับการลงทุนด้วยเงิน ถ้าคุณออมเงินเพียงเล็กน้อยตรงส่วนนี้หรือส่วนนั้น สุดท้ายเมื่อมันมารวมกัน มันก็สามารถสร้างความแตกต่างได้มากเช่นกัน”
ในขณะที่เธอตระหนักว่าการไม่มีผลกระทบที่เป็นศูนย์ต่อโลกเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ดร.ฮัวเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ที่กลมกลืนกับธรรมชาติเพื่อรักษาโลกสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต
“ผลกระทบเป็นศูนย์นั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับอนาคตอันใกล้นี้” เธอกล่าว “แต่ความยั่งยืนบอกเป็นนัยว่าเราจะรักษาโลกใบนี้ไว้เพื่อคนรุ่นต่อไปในอนาคต เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจความสามารถในการเปลี่ยนแปลงของโลกและอยู่ในห้วงระยะนั้น”
ความยั่งยืนทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ
การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่นำเปิดโอกาสกระแสเหล่านี้ย้อนกลับมาอีกครั้งและยังเป็นการส่งเสริมโอกาสและสร้างความมั่งคั่งในชุมชนทั่วโลก แจ็คกี้ จุง (Jackie Jung) รองประธานฝ่ายกลยุทธ์การดำเนินงานระดับโลกของ Western Digital มีความกระตือรือร้นในการตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนี้สำหรับพนักงานและระบบเศรษฐกิจ “ความเจริญรุ่งเรือง ผู้คน และโลก” จุงกล่าว “นั่นคือสามสิ่งที่ฉันมุ่งเน้น”
“ความเจริญรุ่งเรือง ผู้คน และโลก” จุงกล่าว “นั่นคือสามสิ่งที่ฉันมุ่งเน้น”
จุงให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านั้นผ่านงานของเธอที่ Western Digital ซึ่งเธอได้ปรับปรุงเทคโนโลยีของบริษัท ความยั่งยืน และพนักงาน ด้วยการใช้เซ็นเซอร์ IoT เพื่อใช้สำหรับการเรียนรู้ของเครื่องและการควบคุมข้อมูล จุงและทีมงานของเธอได้เปลี่ยนให้อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างของ Western Digital ในประเทศไทยและมาเลเซียให้เข้าสู่การเป็น Global Lighthouse ของ World Economic Forum สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้เป็นผู้นำในด้านการดำเนินการ 4IR และเป็นตัวแทนความสำเร็จของการปฏิวัติ
“ฉันเชื่อในการวิเคราะห์ข้อมูลและเทคโนโลยี รวมถึงเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะความรุ่งโรจน์และความภาคภูมิใจมาสู่บริษัท โรงงานและพนักงาน” เธอกล่าวถึงการได้รับรางวัล
ส่วนสำคัญของโรงงานแห่งนี้ คือ ทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่จุงหลงใหลเช่นกัน เธอตระหนักดีว่าการจะประสบความสำเร็จได้นั้น พนักงานจำเป็นต้องมีส่วนร่วม ต้องได้รับการศึกษา และได้รับการฝึกอบรม
“การปฏิวัติอุตสาหกรรมทุกครั้งทำให้บางงานถูกแทนที่ แต่ก็ไม่ได้ถูกทำลาย ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป ดังนั้นเราต้องช่วยให้ผู้คนก้าวต่อไปและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ไม่ใช่ใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัว” จุงกล่าว “ส่วนหนึ่งคือการให้ความรู้แก่พนักงาน อีกส่วนคือการสร้างงานใหม่ที่มีคุณค่ามากขึ้น งานที่ซ้ำซากจำเจน้อยกว่า ปลอดภัยกว่า และรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่า”
งานกว่าพันล้านตำแหน่งจะถูกเปลี่ยนโดยเทคโนโลยีในทศวรรษหน้า ขณะที่จุงได้เริ่มต้นคิดอยู่แล้วว่าจะปรับปรุงทักษะพนักงานของบริษัทอย่างไรในอนาคต
“เราคิดอยู่เสมอว่า “ฉันเป็นผู้ดูแลภายในโรงงาน ดังนั้นฉันก็ต้องทำงานที่โรงงาน”” เธอกล่าว “แต่ด้วยข้อมูล เราสามารถใช้ความจริงเสมือนและเครื่องมืออื่นๆ ที่สามารถเปลี่ยนความคิดเราได้ เทคโนโลยีนี้กำลังท้าทายกระบวนทัศน์นั้นและช่วยให้เราจินตนาการถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้”
เป้าหมายที่สูงส่งมีพื้นฐานมาจากศักยภาพของมนุษย์
การตระหนักถึงเป้าหมายที่สูงส่งเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญของวัน การฟื้นฟูโลกและการบรรลุความสมดุลที่กลมกลืนกับธรรมชาติจะสามารถกำหนดความพยายามทั่วโลกได้ถึงหลายทศวรรษ การเพิ่มขีดความสามารถ รวมถึงการยกระดับพนักงานทั่วโลกด้วยการฝึกอบรม งานที่ดีขึ้นจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตและสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น
การปฏิวัติอุตสาหกรรมซ้ำครั้งที่สี่มอบโอกาสที่หายากสำหรับการรีเซ็ต การใช้ประโยชน์จากข้อมูล การใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และการมุ่งมั่นเพื่อความเจริญรุ่งเรืองสำหรับโลกและผู้คนบนโลกใบนี้จะเรื่องที่มวลมนุษยชาติต้องหันกลับมาให้ความสนใจในอนาคตอันใกล้ ในขณะที่บางคนรู้สึกหวาดหวั่น แต่แจ็คกี้ จุง กลับมีกำลังใจและมั่นใจ
“ฉันได้รับแรงบันดาลใจจากศักยภาพของมนุษย์” เธอกล่าว “การยกระดับศักยภาพของมนุษย์ด้วยเทคโนโลยี”
บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
33 ถนนสุคนธสวัสดิ์ แขวงลาดพร้าว
เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230
Tel : +66(0) 2553-8888
https://www.synnex.co.th/th/