บริษัท ซีซีทีวี(ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 เป็นบริษัท ที่ได้การรับรองมาตราฐาน ISO 9001:2015 และเป็นบริษัทเดียวในวงการที่ได้รับรางวัล SME ดีเด่นระดับชาติ 2 ปีซ้อน บริษัทฯ เป็นผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งจากสินค้าแบรนด์ชั้นนำระดับโลกจากยุโรปและอเมริกา โดยมี ระบบ IOT- Smart City ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ระบบป้องกันขโมย ระบบบริหารจัดการภาพ ระบบประกาศเสียง ระบบควบคุมการเข้าออกอาคาร ระบบป้องกันไฟไหม้, และอุปกรณ์เสริมต่างๆ โดยการจัดจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย กลุ่มผู้รับเหมางานระบบ ไฟฟ้า กลุ่มผู้เข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชน
คุณกฤษฎา ปานบำรุง CEO บริษัท ซีซีทีวี(ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจในปีที่ผ่านมาและในอนาคตข้างหน้านี้ว่า “สำหรับประเทศไทยในขณะนี้ถือว่าการเติบโตของตลาดกล้องวงจรปิดนั้นเพิ่มขึ้นและมีมูลค่าสูงขึ้น
แต่ในขณะเดียวกัน ตลาดกล้องวงจรปิดของประเทศไทยก็มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ผู้บริโภคหรือลูกค้ามีตัวเลือกเพิ่มขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องให้ความสนใจในส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกันด้วย เช่น ในส่วนของคุณภาพของสินค้าที่ต้องมีความน่าเชื่อถือ บริการหลังการขายที่ดี”
ด้านทิศทางในปี 2023 คาดว่าตลาดจะอิงกับเรื่อง Smart City โดยบริษัท ซีซีทีวี(ประเทศไทย) จำกัด กำลังต่อยอดในเรื่องซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้เหมาะสมกัน เพื่อส่งเสริมให้พัฒนาไปในทิศทางที่ตอบโจทย์กับ Smart City หลายๆ ด้าน นอกจากเรื่องการพัฒนาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ บริษัทฯ ยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อตอบสนองการใช้งานในด้านอื่นๆ ด้วย อาทิเช่น ด้าน Smart Security เป็นการตอบโจทย์เรื่องการฝ่าฝืนจราจร, การแก้ไขปัญหาจราจร, ทั้งเรื่องของการเดินทางและปัญหาการเชื่อมต่อระบบ เป็นการบูรณาการระบบกล้องวงจรปิด ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อตรวจดูเส้นทางจราจร อันจะเป็นการต่อยอดของเทคโนโลยีที่มีอยู่ โดยการผลักดันกล้องที่อยู่ในระบบให้สามารถมาใช้ประโยชน์ในด้านการจราจรทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย และมุ่งหวังว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้เป็นอย่างยิ่ง “เป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้คือ เรามุ่งความสนใจไปที่กลุ่มลูกค้าที่ทำงานโครงการกับภาครัฐขนาดใหญ่ ซึ่งเรามีความพร้อมในเรื่อง Solution ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องของ Smart City ได้เป็นอย่างดี เพราะเราต้องโฟกัสกลุ่มที่ใช่ แล้วทำให้กลุ่มนั้นเติบโตขึ้น
ซึ่งปีนี้เราเชื่อว่าจะเติบโตขึ้นกว่าในปีที่แล้ว จุดยืนสำคัญของเราคือต้องการเป็น Distributor ของผลิตภัณฑ์ทางฝั่งยุโรปอเมริกา โดยเราเป็นตัวเลือกให้ลูกค้าเลือก ถ้าลูกค้าต้องการผลิตภัณฑ์ จากฝั่งยุโรปอเมริกาลูกค้าต้องนึกถึงเรา และขอให้มั่นใจในการให้บริการของทาง “CCTV Thailand” ดังนั้นลูกค้าจึงสามารถมั่นใจในบริษัทและสินค้า ที่เราเป็นตัวแทนจำหน่ายได้อย่างแน่นอนครับ คุณกฤษฎา กล่าวทิ้งท้าย
วิสัยทัศน์ พันธกิจ วัฒนธรรมองค์กร
บริษัท ซีซีทีวี(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้นำเข้าระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ระบบป้องกันขโมย ระบบบริหารจัดการภาพ ระบบควบคุมการเข้าออกอาคาร ระบบป้องกันไฟไหม้ ระบบประกาศเสียง และอุปกรณ์เสริมต่างๆ โดยการจัดจำหน่ายให้กับกลุ่มตัวแทนจำหน่ายของทางบริษัททั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯและในต่างจังหวัด ทางบริษัทฯ จัดจำหน่ายสินค้าที่มีความน่าเชื่อถือระบบโลก อาทิเช่น BOSCH, Honeywell, Nx Witness VMS, และ Senturian โดยบริษัทฯ มีนโยบายที่ชัดเจนที่จะไม่แข่งขันงานกับตัวแทนจำหน่ายและจะไม่เสนอราคาสินค้าตรงให้กับ End User เป้าหมายของบริษัทคือช่วยตัวแทนจำหน่ายทำงาน และในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ขยายองค์กรและเพิ่มทุนจดทะเบียนมากกว่า 100 ล้านบาท และได้ขยายธุรกิจทางด้านระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร มีการขยายสาขาเพิ่มตามภูมิภาคต่างๆให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
เพื่อให้ความสะดวกแก่ตัวแทนจำหน่าย คุณกฤษฎา ปานบำรุง CEO บริษัทฯ กล่าวว่า “สิ่งที่เราจะให้ลูกค้า ต้องเป็นสิ่งที่ดีและมีคุณภาพ พร้อมด้วยการบริการที่เป็นเลิศ ภายใต้แนวทางการบริหารโดยยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อเป็นผู้นำในการจัดจำหน่ายกล้องวงจรปิดมาตรฐานโลก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและพันธมิตรที่แข็งแกร่ง…”
การบริหารงานในปัจจุบันมีความแตกต่างจากเมื่อจุดเริ่มต้นอย่างไร
สำหรับในการบริหารงาน ผมจะเน้นย้ำอยู่เสมอถึงรูปแบบการทำงานที่จะให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ ซึ่งการที่จะไปถึงผลลัพธ์ เราต้องมีความเข้าใจและให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก เป้าหมายของผมก็คือการทำให้ธุรกิจเติบโตตามที่เราคาดหวัง นอกจากนี้จะยังคงมีการมุ่งเน้นในส่วนของการบริหารและพัฒนาด้านบุคลากร “เพื่อให้ทีมงานของเรามีศักยภาพที่ ทั้งในแง่ของความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายและในเชิงของทักษะเฉพาะบุคคล รวมไปถึงการพัฒนาในส่วนของ Dealer ด้วย เพราะการที่ บริษัทฯ จะไปถึงเป้าหมายได้ เราต้องมี Dealer ที่แข็งแกร่ง เพราะ Dealer คือตัวแทนในการจำหน่าย สินค้าของเราและผลักดันสินค้าของเราออกไปสู่ตลาด”
การบริหารงานของบริษัทฯ ไม่ได้ต้องการที่จะทำธุรกิจในระยะสั้น แต่เราต้องการทำธุรกิจในระยะยาว ซึ่งทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์, การพัฒนาบุคลากร และการพัฒนา Dealer จะนำไปสู่การเติบโตในธุรกิจของเราอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในประเทศไทย เป้าหมายหลักของบริษัทฯ และสิ่งสำคัญสุดท้ายที่ผมอยากกล่าวถึงคือ เรามีลูกค้าเป็นศูนย์กลางของการทำธุรกิจ หมายความว่า ลูกค้าคือปัจจัยหลัก และเราต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของลูกค้า รวมถึงการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคต ไม่ว่าจะเป็น End Users หรือ Partners ล้วนแล้วแต่คือลูกค้าและพันธมิตรของเราทั้งหมด ดังนั้นเราจึงพยายามที่จะปรับปรุง ทั้งในตัวขององค์กรและความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด โดย Dealer ส่วนใหญ่ของเรามีการร่วมทำงานกับเรามาอย่างยาวนานจนได้รับความไว้วางใจเสมอมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ยังคงจะยึดถือและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
สำหรับทีมงานของ CCTV Thailand และจุดมุ่งหมายเดียวกัน
ทีมงานทุกคนในบริษัท ผมมองทุกคนเป็นครอบครัวนะครับ เราดูแลกันและกันเหมือนครอบครัว ทุกคนมีความสำคัญเท่ากันหมด ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้ เราจะมีประชุมทีมผู้บริหารทุกอาทิตย์เพื่อกลั่นกรองนโยบายส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน โดยทางบริษัทจะจัดให้มีการประชุมใหญ่ทุกๆ เดือนเพื่อให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้ โดยบริษัท CCTV ทุกคนในบริษัทมีเป้าหมายเดียวกัน คือการมุ่งสู้การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี Smart City
การอยู่รอดได้และเติบโตอย่างยั่งยืน
เพื่อให้การบริหารจัดการด้านการเงินให้มีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานทางการเงิน โปรงใส ตรวจสอบได้ พร้อมสนับสนุนทีมขาย ทีมบริหาร ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว และเพื่อส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กรให้สู่ยอดขายที่ตั้งเป้าหมายที่วางไว้ ในส่วนของฝ่ายบัญชีและการเงินเป็นทั้งฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุน โดยเสริมความเข้มแข็งทางด้านการเงิน การบริหารกระแสเงินสด การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ เพื่อให้ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นเป้าหมายสำคัญในการใช้บัญชีการเงินเพื่อบริหารจัดการ ภายใต้วิสัยทัศน์ ที่ว่า
“บริหารด้านการเงินอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด ประหยัด รอบคอบ ชื่อตรง โปร่งใส รวดเร็ว ทันใจ”
ความแข็งแรงของฝ่ายบัญชีการเงินของบริษัท คือ การควบคุมภายใน ทั้งในเรื่องของการรับเงิน และการจ่ายเงิน ธุรกรรมทางการเงินทุกรายการต้องมีเอกสารหลักฐานแนบ
ประกอบทุกรายการ มีผู้ลงนามรับเงิน ส่วนการรับเงินจะต้องมีเอกสารใบกำกับภาษีและใบเสรีจรับเงินถูกต้อง
ด้วยจุดมุ่งหมายสูงสุดขององค์กรของเราก็คือ “การอยู่รอดได้และเติบโตอย่างยั่งยืน” ซึ่งในส่วนของบริษัทฯ ของเราจะต้องทำ 2 สิ่งนี้ คือ ทำกำไร และทำให้สินค้าให้ขายได้ และองค์กรของเรามีการพัฒนาและการจัดระบบการบริหารทางการเงินที่ดี เพื่อให้บริษัทฯ บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ และเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางขององค์กร บริษัทฯ จะมีการบริหารด้านการเงิน 2 ส่วน คือ การวางแผนทางการเงิน และการจัดการทางการเงิน การดำเนินงานโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ จะต้องคำนึงถึงเรื่องของเงินทุนหรือสภาพคล่องทางการเงิน และผู้บริหารสูงสุดจะสามารถทราบถึงสถานะทางการเงินในภาพรวมขององค์กรได้ จะทำให้เราเห็นตัวเลขการเคลื่อนไหวของกิจการ รู้ฐานะทางการเงินของกิจการดีมากยิ่งขึ้น ทำให้เราเห็นภาพรวมด้านกำไรขาดทุนอย่างชัดเจน เช่น ทำให้รู้ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และสามารถตรวจสอบค่าใช้จ่ายของทุกแผนกและทุกกระบวนการได้ง่าย ผู้บริหารสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้เพื่อการตัดสินใจได้หลายด้าน เช่น การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน หรือการลดสินค้าคงเหลือ วิเคราะห์ความคุ้มค่าของการลงทุน และหากธุรกิจสามารถบริหารจัดการทางบัญชีได้ดี สิ่งที่ตามมาก็คือ ‘ต้นทุนถูกลง’ ซึ่งจะทำให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างชัดเจน ต้นทุนน้อยลงแปลว่าธุรกิจก็จะตั้งราคาได้ดีกว่าคู่แข่ง และกีดกันเจ้าใหม่ไม่ให้เข้ามาแข่งได้ด้วย ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ได้อีกทางหนึ่ง
ด้านฝ่ายบุคคล ทรัพยากรของบริษัทที่มีค่ามากที่สุด คือ พนักงาน
เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย จากการบริหารแบบเดิมสู่ยุคมืออาชีพ จึงให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรในองค์กร เริ่มตั้งแต่การคัดเลือก การสรรหาพนักงานที่มีความรู้ความสามารถ มีความเหมาะสม และสามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรได้เป็นอย่างดี การรับคนรุ่นใหม่ และแนวคิดการทำงานรูปแบบใหม่ๆ เพื่อสร้าง ความหลากหลาย ให้เกิดแรงขับเคลื่อนในการทำงานโดยเน้นความซื่อสัตย์ ใฝรู้ ทำงานเป็นทีม มีการอบรม และเน้นย้ำความ มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ ความเป็นมืออาชีพ
ด้านฝ่ายบุคคล ถือว่าพนักงานทุกคนเป็นบุคคลสำคัญในองค์กรที่จะสร้างนวัตกรรม และแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน และมีความคล่องตัวในการทำงานมากยิ่งขึ้นในฝ่าย โดยทาง บริษัทฯ มีการลงทุนนำเทคโนโลยี แอพพลิเคชั่นต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือ เพื่อให้การทำงานมีความรวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพ และลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น
ในทุกวันนี้งานด้านทรัพยากรบุคคล พนักงานสามารถ เช็ควันเวลาการทำงานของตัวเองในระบบ รวมถึงสามารถ คีย์ลา เบิกค่าล่วงเวลาออนไลน์ โดยหัวหน้างานสามารถอนุมัติผ่านมือถือ เน้นความสะดวกสบาย ลดขั้นตอนเอกสาร ในด้านของการดูแลพนักงาน, Google Workspace ไดรฟ์ที่แชร์จัดเก็บข้อมูลงานของทีมไว้ในพื้นที่ที่ใช้ร่วมกันอย่างปลอดภัยและจัดการได้ง่าย ทำให้ทุกคนได้รับข้อมูลล่าสุดเสมอ สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา
บริษัทฯมีการจัดหาประกันสุขภาพ ประกันหมู่เพิ่มเติม โดยเฉพาะในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 และพนักงานทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนครบสองเข็มตั้งแต่ต้น เพื่อความมั่นใจในการทำงาน และความสบายใจของลูกค้า บริษัทฯ พยายามเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของพนักงาน ให้มีความยืนหยุ่น และผลักดันให้ทุกคนมีส่วนร่วมระหว่างพนักงานกับบริษัท ให้มีความรับรู้และเข้าใจ Mission และ Vision ของบริษัทอย่างแท้จริง เพื่อมีเป้าหมายร่วมกัน เป็นแรงผลักดัน ให้มีความพร้อมกับการแข่งขันในอนาคต
“โอกาสนำพาความสำเร็จ”
การได้รับโอกาสเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ทีมพัฒนาความสามารถและเติบโตในสายงานการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัย ดังนั้น นี่คือแนวคิดเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานที่ผ่านมา
1. พัฒนาทักษะและความสามารถ : การพัฒนาทักษะและความสามารถเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมตัวเพื่อโอกาสรับในการทำงานใหม่ ดังนั้นทีมจึงให้ใช้เวลาในการเรียนรู้และปรับปรุงทักษะอย่างสม่ำเสมอ
2. เข้าสังคมและสร้างความสัมพันธ์ : การเชื่อมโยงกับคนอื่นในวงการและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการได้รับโอกาส
3. รับฟังและเรียนรู้ : การรับฟังและเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์และผู้เชี่ยวชาญในวงการเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาความรู้และเป็นโอกาสในการปรับปรุงทำให้ทีมเติบโต
4. มุมมอง : “Perspective” แต่ละโอกาสที่ได้รับไม่ใช่ว่าทุกครั้งทนทางเดินจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ทลายๆ โครงการเราพบว่ามีปัญหาและอุปสรรคมากมายก่อนเริ่มทำงาน แต่โครงการเหล่านั้นกลับกลายเป็นผลงานชิ้นโบแดง เพียงเพราะว่าเราไม่ปิดโอกาส
สิ่งที่อยากให้เกิดการพัฒนาขึ้นในอนาคต
“ปัจจุบันเราจะพบว่า Software ที่อยู่ในท้องตลอด จะมีความหลากทลาย ซึ่งแต่ละระบบก็จะมี Software เป็นของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าในส่วนของผู้ใช้งานก็จะเกิดความไม่สะดวก เพราะต้องใช้งานหลาย ๆ โปรแกรมพร้อมกัน เช่น การอ่านป้ายทะเบียนรถ การวิเคราะห์ตรวจจับใบหน้า การนับจำนวนคน เป็นต้น ดังนั้น จึงเป็นแนวคิดในการที่ว่า เราควรจะมี Software เดียวซึ่งสามารถบริหารจัดการระบบทั้งหมดได้ในโปรแกรมเดียว”
ซึ่งปัจจุบันทีมงาน CCTVTHAILAND ก็ได้เข้ามาตอบโจทย์เรื่องนี้ เพราะสามารถนำมาพัฒนาและประยุกต์การทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอื่น ๆ ซึ่งทำให้เกิดเป็นโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้ มีผลิตภัณฑ์กล้องโทรทัศน์วงจรปิดดี ๆ มากมายที่วางขายอยู่ในท้องตลาด ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีความเก่งในแบบฉบับของตัวเอง ถ้าหากเทคโนโลยีของแต่ละแบรนด์เปิดโอกาสให้มีการทำงานร่วมกันง่ายขึ้น ก็จะถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะช่วยให้สามารถออกแบบระบบได้อย่างยืดหยุ่น สามารถหยิบจับนำสิ่งดี ๆ ของแต่ละแบรนด์มาบูรณาการกันเพื่อนำเสนอให้ลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด บนความเหมาะสมตามแต่ละเงื่อนไขที่ลูกค้าจำเป็นจะต้องได้รับ