ปัญหาฝุ่น PM2.5 ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกับสุขภาพและความเป็นอยู่ โดยพื้นที่ชุมชนแออัด ทาง RISC จึงได้พัฒนา Fahsai Mini หอฟอกอากาศลดฝุ่น ฆ่าเชื้อโรค สะดวกต่อเคลื่อนย้ายเหมาะกับพื้นที่ชุมชนแออัด ซึ่งกำลังขนาดการใช้งานครอบคลุมพื้นที่เท่ากับครึ่งสนามฟุตบอล
Fahsai Mini หอฟอกอากาศอัตโนมัติ แบบไฮบริด ที่คิดค้นโดยศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน หรือ RISC ภายใต้ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ซึ่งพัฒนาตอบโจทย์คนเมืองที่กำลังเผชิญปัญหาสุขภาพด้านการหายใจ และใช้พื้นที่นอกอาคารได้อย่างสบายใจ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง อย่าง ผู้สูงอายุ เด็ก สตรีมีครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ
หอฟอกอากาศ Fahsai Mini ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลง มีความสูงเพียงแค่ 3.20 เมตร และฐานกว้าง 1.35 เมตร เพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย สะดวกและสามารถเข้าถึงพื้นที่ชุมชนแออัดในเมืองได้ โดยมีกำลังขนาดของพัดลมขาเข้าและขาออกรวมเป็น 60,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่เท่ากับครึ่งสนามฟุตบอล
หลักการทำงานของหอฟอกอากาศ Fahsai Mini คือดูดอากาศจากด้านล่างด้วยพัดลม ดึงอากาศเข้าไปในระบบ ผ่านหัวพ่นละอองน้ำความเร็วสูง 2 ชั้น ผสมกับการออกแบบแผ่นโครงสร้างดักฝุ่นละอองและเพิ่มแรงตึงผิวให้กับน้ำ สามารถจับอนุภาคขนาดตั้งแต่ 0.3 ไมครอนขึ้นไป
อากาศจากหอฟอกอากาศนี้จะผ่านการฆ่าเชื้อโรคด้วยระบบ UVGI เพื่อทำให้อากาศสะอาด และจะปล่อยออกมาในระดับความสูงที่คนหายใจพอดี โดยมีใบพัดช่วยดึงให้ได้ปริมาตรตามต้องการ ฟ้าใสมินิรุ่นนี้ใช้ปริมาณน้ำในระบบเพียง 50 ลิตรต่อวัน เพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งปนเปื้อนในอากาศ รวมถึงมีระบบหมุนเวียนน้ำ บางส่วนให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยเทคโนโลยีโอโซนในน้ำและระบบกรองน้ำ ส่วนระบบอัตโนมัติแบบไฮบริดนำพลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์ มาใช้ร่วมกันกับระบบพลังงานไฟฟ้าทั่วไป เพื่อลดภาระการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวัน
Fahsai Mini หอฟอกอากาศลดฝุ่นเพื่อพื้นที่แออัด กระบวนการทำงานรักษ์โลกรศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน RISC เผยถึงการทดสอบประสิทธิภาพของหอฟอกอากาศ Fahsai Mini ที่ผ่านมาพบว่า เมื่อติดตั้งหอฟอกอากาศใช้งานเมืองที่มีอาคารและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองลดลงและสร้างขอบเขตพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างชัดเจน โดยมีประสิทธิภาพที่ 50-70% โดยคิดจากวันที่มีฝุ่นสะสมในพื้นที่เมืองที่ 100-150 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ทาง RISC มีความมั่นใจว่า หอฟอกอากาศ Fahsai Mini รุ่นใหม่จะทำหน้าที่การสร้างพื้นที่ปลอดภัย และสามารถติดตั้งในบริเวณพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของอาคารสูง ถนนเล็กในเขตชุมชน และตรอกซอยได้ดียิ่งขึ้น สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีการสะสมของฝุ่นในปริมาณที่มากกว่ากรุงเทพมหานครถึง 5 เท่า (500-750 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) และมีลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ที่แตกต่างจากเมือง ยกตัวอย่าง มหาวิทยาลัยพะเยาที่มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ เมื่อเกิดการเผาในบริเวณรอบ ฝุ่นละอองก็จะตกลงมาและสะสมในพื้นที่เหล่านี้ได้โดยง่าย ซึ่ง RISC อยู่ระหว่างทำวิจัยและทดสอบประสิทธิภาพของฟ้าใสอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้เกิดประบวนการเรียนรู้และต่อยอดในการพัฒนานวัตกรรมอากาศสะอาดต่อไปในอนาคต
แหล่งข้อมูล