AI พยากรณ์อากาศ เร็วขึ้น แม่นยำขึ้น ไม่ต้องรอผลหลายชั่วโมง

Share

AI กำลังพลิกโฉมโลก เป็นเรื่องไม่เกินเลยความจริง มันกำลังเข้าไปปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานในทุกสาขา คราวนี้ มันกำลังพัฒนาเป็นนักพยากรณ์อากาศที่แม่นยำที่สุด เร็วที่สุด และกำลังจะเข้ามาแทนที่ระบบพยากรณ์อากาศแบบเก่า

ระบบพยากรณ์อากาศที่ได้รับความนิยมที่สุดในปัจจุบัน คือ Integrated Forecasting System หรือ IFS อธิบายวิธีการทำงานให้เข้าใจง่ายๆ คือ การนำตัวชี้วัดอากาศต่างๆที่เรียกว่า CRPS มาเป็นข้อมูลพื้นฐาน แล้วนำข้อมูลไปคำนวณในโมเดล IFS เพื่อคาดการณ์สภาพอากาศอนาคต แต่กว่าจะทำเสร็จแต่ละครั้งต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง

สภาพอากาศอนาคต มีตัวบ่งชี้หลายอย่างเป็นปัจจัยที่ทำให้สามารถพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้ เช่น อุณหภูมิ น้ำค้าง ความดัน ลม ความชื้น ความขุ่นมัว แสงแดด ฯลฯ การคาดการณ์สิ่งที่มีสัญญาณล่วงหน้าที่มีรูปแบบ เป็นงานที่ AI สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีบทพิสูจน์ชัดเจนแล้ว

วันนี้มีองค์กรหลายแห่งของโลก กำลังเอา AI มาช่วยในการพยากรณ์อากาศ เช่น Nvidia, Google-DeepMind, Huawei

ผลการวิจัยล่าสุดจาก Pangu-Weather ของ Huawei รายงานว่า มีการสร้างโครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึกที่นำ AI ไปฝึกฝนกับข้อมูลอากาศย้อนหลัง 39 ปี มันศึกษาข้อมูลจากเครื่องบ่งชี้ต่างๆ และผลที่ตามมาของสภาพอากาศจริงในอดีต ทำให้มันสามารถสรุปสภาพอากาศอนาคตจากตัวแปรต่างๆที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้

แม้ว่า Pangu-Weather ของ Huawei จะยังไม่สมบูรณ์ แต่พบว่ามันสามารถพยากรณ์อากาศได้แม่นยำไม่ต่างจากระบบ IFS แต่มันทำงานได้เร็วกว่ามาก

Pangu-Weather สามารถติดตามเส้นทางของพายุหมุนเขตร้อนได้อย่างแม่นยำ และทำได้เร็วกว่าทุกระบบที่มีอยู่ในปัจจุบัน

นักพยากรณ์อากาศ AI สามารถพัฒนาให้ก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตมันจะพยากรณ์อากาศอนาคตล่วงหน้าได้ไกลขึ้น และเร็วขึ้นไปอีก อาจเป็นเรียลไทม์เหมือนอย่างที่มันทำได้ในหลายๆงาน

การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจากโลกที่ร้อนขึ้น ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนและรุนแรงมากขึ้น AI ที่เข้ามาช่วยทำให้การพยากรณ์อากาศมีประสิทธิภาพดีขึ้น จะช่วยบรรเทาความเสียหายกับมนุษย์ไปได้บ้าง

อะไรที่เป็นเรื่องของการคาดการณ์ที่มีรูปแบบชัดเจน AI สามารถทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ และระบบอื่นๆที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน!!!

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/photo/?fbid=709640594507953&set=a.687193000086046