สตช. แจ้งเตือนให้ประชาชนรู้เท่าทันกลโกงของคนร้าย ส่ง sms พร้อมแนบลิ้งก์คุมมือถือ ป้องกันง่ายๆ คือ ไม่เปิดอ่าน หรือ อย่ากดลิ้งก์แปลกปลอม หากต้องการติดตั้งแอป ควรโหลดและติดตั้งจาก Google Playstore หรือ App Store เท่านั้น
พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์มากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
- คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ
- คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ
- คดีหลอกลวงให้กู้เงิน
- คดีหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ฯ
- คดีข่มขู่ทางทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center)
นอกจากนี้ เมื่อช่วงเดือน มีนาคม 2566 – มิถุนายน 2566 สถิติคดีหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ฯ อยู่ในลำดับที่ 7 แต่ช่วง 2 สัปดาห์นี้ สถิติการรับแจ้งความเพิ่มมากขึ้นจนขยับมาอยู่ลำดับที่ 4
สถิติการรับแจ้งความออนไลน์ในรอบ 2 สัปดาห์ ช่วงวันที่ 2-15 ก.ค.2566 จำนวน 595 เคส ความเสียหาย 90.5 ล้านบาทเศษ เห็นได้ว่าคนร้ายได้พัฒนารูปแบบและวิธีการหลอกลวง ถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วนต้องแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบ
พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท.บช.สอท. กล่าวว่า คนร้ายได้มีการพัฒนาวิธีการเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ ซึ่งในรอบสัปดาห์ตำรวจจะได้รับแจ้งความจากประชาชนที่ถูกให้หลอกโหลดแอปฯ ประมาณ 100-200 เคส เพิ่มขึ้นมาประมาณ 300 เคสต่อสัปดาห์ มูลค่าความเสียหาย ประมาณ 7 ล้านบาท ต่อวัน
ตำรวจจึงขอเตือนการกดโหลดแอปพลิเคชั่นจาก Google Play Store ที่คนร้ายใช้เป็น Google Play บนเว็บไซต์ปลอมเพื่อตบตา รวมทั้งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงส่ง SMS แจ้งว่า
“เนื่องด้วยเจ้าหน้าที่คำนวณค่า FT ไฟฟ้าผิด ทำให้เก็บค่า FT ไฟฟ้ามาเกินให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ http://mea.bwz-th.cc”
หากเหยื่อหลงเชื่อ กดลิ้งก์เพิ่มเพื่อนใน LINE เพื่อขอชื่อและเบอร์โทรศัพท์ จากนั้นคนร้ายจะโทรมาพร้อมหลอกให้โหลดแอปพลิเคชันการไฟฟ้านครหลวงปลอมที่ส่งลิ้งก์มาให้ทาง LINE
เมื่อกดเข้าไปจะมีข้อความและสัญลักษณ์ด้านบนเป็น Google Play เพื่อให้เหมือนว่าเป็นการโหลดจาก Google Play แต่ความจริงเป็น Google Play ปลอม จากนั้นจะหลอกให้กดโหลดแอปพลิเคชั่นควบคุมเครื่องโทรศัพท์
แล้วให้เหยื่อกรอกชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ ตั้งรหัสผ่าน 6 ตัว 2 ชุด ที่ไม่ซ้ำกัน กดยืนยันข้อมูล 3 จุดให้เป็นสีน้ำเงิน เพื่อยืนยันตัว จากนั้นหน้าจอจะเกิดข้อความค้าง ขึ้นข้อความว่า “อยู่ระหว่างโหลดข้อมูล” โดยคนร้ายจะหลอกว่าให้โหลดข้อมูลไม่ต่ำกว่า 15% แล้วเงินจะเข้าบัญชี แต่ระหว่างนั้นคนร้ายได้สุ่มนำรหัสที่เราใส่ไป หรือจากวันเดือนปีเกิดเรา หรือจากหมายเลขโทรศัพท์ไปทดลองเข้าแอปธนาคารในโทรศัพท์ โอนเงินออกจากบัญชีเหยื่อไป
จุดสังเกตการเปรียบเทียบของปลอม-ของจริง
ของปลอม
- ไลน์เป็นชื่อบัญชีส่วนบุคคล สามารถโทรหากันได้
- เว็บไซต์ปลอม นามสกุลของโดเมนของ มักลงท้ายด้วย .cc
- บนหน้าจอระบุหน้าเว็บไซต์ Google Play แต่ลิ้งก์ที่แสดงเป็น http://mea.tw-th.cc
- แอปพลิเคชันของปลอม MEA Smart Life ไม่มีข้อมูลติดต่อของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ และแอปฯ ในเครือ
ของจริง
- LINE เป็นชื่อบัญชี MEA Connect ซึ่งเป็นบัญชีทางการ (Official) ไม่สามารถโทรหากันได้
- เว็บไซต์ชื่อ www.mea.or.th นามสกุล ของโดเมนคือ .or.th
- เมื่อต้องการ Download App บน Google Play ลิ้งก์ที่แสดงจะระบุ https://play.google.com
- แอปพลิเคชันของจริง MEA Smart Life มีข้อมูลติดต่อของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ และมีแอปฯ ในเครือ
วิธีป้องกัน
- ไม่เปิดอ่านหรือ กดลิ้งก์ใน SMS แปลกปลอม หรือติดตั้งแอปพลิเคชันที่มิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้ง
- กรณีมีการส่ง SMS ที่ผิดปกติ ควรโทรศัพท์ตรวจสอบกับการไฟฟ้านครหลวง MEA call center โทร. 1130 โดยตรง
- หากต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ควรโหลดและติดตั้งจาก Google Play store หรือ Apple Store เท่านั้น ไม่ควรดาวน์โหลดจากลิ้งก์หรือข้อความที่มีคนส่งให้
นอกจากนี้เมื่อรู้ว่าตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพระหว่างโหลดแอปพลิเคชั่นแล้วหน้าจอโทรศัพท์ค้างสามารถรีบแก้ไขได้ด้วยการปิดสัญญาณ wifi ทันที หรือรีบถอดซิมการ์ดโทรศัพท์ออก
เพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่ สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้จาก เว็บไซต์ และเพจ เตือนภัยออนไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรสายด่วน 1441
แหล่งข้อมูล