ในสหรัฐอเมริกามีคนตาบอดประมาณ 1 ล้านคน แต่มีเพียง 2% ที่มีโอกาสได้ใช้สุนัขนำทาง
การฝึกสุนัขต้องเริ่มตั้งแต่เป็นลูกสุนัข และมีประมาณครึ่งหนึ่งไม่สามารถฝึกให้เป็นสุนัขนำทางได้สำเร็จ การฝึกสุนัขนำทางแต่ละตัว มีค่าใช้จ่ายสูงถึง $50,000 – $60,000 ต่อปี
วันนี้นักวิจัยจาก Binghamton University ในนิวยอร์กได้ใช้เทคโนโลยี AI และ Robotic มาสร้าง AI Robodog เพื่อให้มันมาทำงานแทนสุนัขนำทางที่เป็นสัตว์จริง
ใช้เวลาฝึกอบรม Robodog เพียง 10 ชั่วโมง หุ่นยนต์ก็สามารถเคลื่อนที่ไปมา นำทางคนตาบอดในสภาพแวดล้อมในร่มได้ หลีกเลี่ยงอุปสรรคได้ และตอบสนองต่อสายลากจูง
ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้พบกับทางแยก และต้องการไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง Robodog จะเคลื่อนที่ไปพร้อมกับคนตาบอดอย่างราบรื่น
แต่สุนัขนำทางหุ่นยนต์ต้นแบบที่มีอยู่ในวันนี้ ยังมีข้อจำกัดในการทำงานหลายอย่าง
วันนี้นักวิจัยกำลังทำงานร่วมกับสมาพันธ์คนตาบอดแห่งชาติเพื่อจะรวมฟีเจอร์ต่างๆที่จำเป็นเข้าไปด้วย เช่น ระบบเตือนในกรณีที่ผู้ใช้พบกับภูมิประเทศที่ไม่เรียบ
ที่จริง ยังสามารถทำให้มันกลายเป็นสุนัขนำทางที่พูดได้ด้วย ซึ่งในวันนี้ Boston Dynamics ทำสำเร็จแล้ว โดยการใช้ ChatGPT ควบกับหุ่นยนต์สุนัข Spot ทำให้มันเป็นสุนัขพูดได้
จะพัฒนาให้มันเป็น Robodog ที่ฟังภาษาคนรู้เรื่องก็ได้ บอกให้สุนัขนำทางหุ่นยนต์เดินเข้าไปในบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่น หรือมีคนพลุกพล่าน ให้มันทำหน้าที่เหมือนคนนำทางที่คุยกันรู้เรื่อง
Robodog มีกล้องทำหน้าที่เป็นตา มีไมค์เป็นหูคอยฟังเสียง มีลำโพงเอาไว้พูด มี ChatGPT เป็นสมอง สามารถสื่อสารกับผู้ใช้งานที่เป็นคนตาบอดได้
หุ่นยนต์สุนัขนำทาง สามารถฝึกฝนให้ใช้งานได้เร็ว ต้นทุนต่ำกว่าการฝึกฝนสุนัขจริง และจะมีเพียงพอสำหรับทุกคนที่มีปัญหาการมองเห็น
เราได้ข่าวเรื่อง AI จะมาแย่งงานคนจำนวนมาก วันนี้มันกำลังมาแย่งงานสุนัข!!!
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/photo/?fbid=780443330761012&set=a.687193000086046