จุดพลุ‘ไทยแลนด์ซูเปอร์แอป’รวมทุกเซอร์วิสภาครัฐในที่เดียว วางทิศทางปี 2567 เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ให้ความสำคัญเรื่องสตาร์ทอัพและสมาร์ทซิตี้
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซปัจจุบันมีขนาดใหญ่มาก แต่ต้องยอมรับว่าที่คนไทยใช้ยังไม่มีแพลตฟอร์มเป็นของคนไทย และไม่มีแนวโน้มจะเกิดเป็นของคนไทยด้วยนั้น เรื่องนี้น่าเป็นห่วง เพราะเรื่องอีคอมเมิร์ซก็เป็นเรื่องที่ต้องส่งเสริม และควรจะมีแพลตฟอร์มที่เป็นของคนไทย
ดังนั้น เรื่องทิศทางปี 2567 ถ่ายจากต้นแบบที่วางนโยบายไว้เรื่องการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้ความสำคัญเรื่องสตาร์ทอัพและสมาร์ทซิตี้ แต่สิ่งเหล่านี้จะเดินต่อไม่ได้ถ้าขาดเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่สำคัญ เบื้องต้นเรื่องคลาวด์เฟิร์สที่จะเป็นคลาวด์แบงก์ใหญ่รวมทุกอย่างในที่เดียวกัน และมีการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ เชื่อมโยงกันได้หมด
นอกจากนี้ วันนี้ต้องยอมรับว่าเรื่องไอดีการ์ดมีหลายหน่วยงานที่ทำดิจิทัลไอดี ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองมีแอปพลิเคชันที่เรียกว่า ThaID (ไทยดี) มีคนเข้าไป 12 ล้านคน แอปพลิเคชันทางรัฐ ของ สพร. มีผู้ใช้งาน 3 แสนคน หมอพร้อมมี 30 ล้านคน เป๋าตัง มีประมาณ 30 กว่าล้าน แต่ยังไม่มีแอปพลิเคชันใดที่เป็นของคนไทยที่มีคนไทยเข้าไปมากที่สุดเหมือนในสิงค์โปร์ที่มี SingPass คนสิงค์โปร์อยู่ในนั้นทั้งหมด ในเมืองจีนมี WeChat คนจีนอยู่ในนั้นทั้งหมด และมีออลเซอร์วิสภาครัฐอยู่ในนั้นทั้งหมด
สิ่งที่กระทรวงดีอีอยากเห็นก็คือเราจะต้องฟันธงเรื่องแอปพลิเคชั่น แอปที่เป็นของคนไทย และมีคนไทยอยู่ในนั้น และมี National ID (NDID) อยู่ในนั้น คนไทย 66 ล้านคนต้องมีอยู่ในนั้นไม่น้อยกว่า 55 ล้านคน ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องสร้างให้เกิดขึ้นมาในยุคนี้ให้ได้ เรื่องOneIDวันไอดี (ไทยแลนด์ซูเปอร์แอป) เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว นโยบายภาครัฐต่างๆ เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตเข้าได้เลย
หลังจากนโยบายภาครัฐเข้าไปแล้ว ออลเซอร์วิส บริการต่างๆ ที่พี่น้องประชาชนมีความจำเป็น เรื่องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ เรื่องประกันสังคม เรื่องการศึกษา เรื่องสาธารณสุข การท่องเที่ยวอยู่ในนั้นทั้งหมด นี่คือความสะดวก นี่คือแอปฯที่จะสร้างศักยภาพให้กับพี่น้องคนไทย อันนี้เป็นสิ่งที่เราอยากทำในปีนี้
“ตอนนี้อยู่ระหว่างการตัดสินใจ เพราะมีกรมการปกครองที่เป็นหลัก ซึ่งอยู่ระหว่างทำความเข้าใจ แต่ปีนี้จะได้เห็นว่าทิศทางจะไปแอปฯไหน” นายประเสริฐกล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องหนึ่งที่มีความสนใจคือเรื่องอีคอมเมิร์ซ วันนี้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไทยมี แต่การพัฒนายังสู้เขาไม่ได้ ดังนั้น เราอยากเห็นอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม เช่น ลาซาด้า อาลีบาบา ที่เป็นสัญชาติไทย เพราะเป็นความมั่นคงเรื่องข้อมูล เพราะท่านซื้อสินค้าจากบริษัทเหล่านั้นไป ข้อมูลถูกส่งไปต่างประเทศหมด
“เพราะฉะนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นความมั่นคง และความปลอดภัยด้านข้อมูล ซึ่งเป็นหน้าที่กระทรวงดีอีหน้าที่ของรัฐบาลที่จะสร้างความมั่นคงให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน” นายประเสริฐกล่าว
แหล่งข้อมูล