Sonnenkraft ผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์จากออสเตรียเปิดตัวแผงโซลาร์เซลล์ “Terracotta” ใหม่ที่เข้ากันกับหลังคากระเบื้องสีแดง และเป็นไปตามข้อกำหนดของอาคารเก่าแก่
แผงโซลาร์เซลล์ที่เป็นนวัตกรรมนี้สามารถบูรณาการเข้ากับหลังคากระเบื้องสีแดงได้อย่างลงตัว และยังคงรักษาเสน่ห์ของโครงสร้างทางประวัติศาสตร์ของอาคารอนุรักษ์ตลอดจนอาคารใหม่ได้ดี
“เราต้องการมีส่วนร่วมในการรับประกันว่าการปกป้องอาคารอนุรักษ์และการผลิตพลังงานที่ยั่งยืนจะไปด้วยกันได้ ด้วย Terracotta แผงโซลาร์เซลล์ใหม่ของเรา ซึ่งผลิตในออสเตรีย ซึ่งแผงโซลาร์เซลล์นี้ยังเป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับลูกค้าที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบด้วยหลังคากระเบื้องสีแดง และมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าในท้องถิ่น” Peter Prasser กรรมการผู้จัดการของ Sonnenkraft ซึ่งมีฐานบัญชาการอยู่ที่เมือง St. Veit an der Glan กล่าว
แผงโซลาร์เซลล์ประกอบด้วยกระจกสองชั้น มีความต้านทานลูกเห็บระดับ 4 (เป็นระดับสูงสุดที่แผ่นหลังคา IR ซึ่งทนทานต่อรังสีอัลตร้าไวโอเลต และสามารถสะท้อนความร้อนได้ดี สามารถมีได้ โดยมีความสามารถในการทนต่อลูกเห็บเส้นผ่านศูนย์กลางสูงสุด 2 นิ้ว)
ด้วยวัสดุห่อหุ้มด้วยสีที่เป็นนวัตกรรมทางเทคนิคทำให้ได้เอฟเฟกต์สีแดงที่เป็นเนื้อเดียวกัน และลดแสงสะท้อนด้วยการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน
ข้อได้เปรียบที่สำคัญของนวัตกรรมนี้คือการสูญเสียการห่อหุ้มที่ต่ำมาก ซึ่งเมื่อรวมกับเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์ TOPCon ล่าสุด ทำให้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 400 Wp (Watt Power วัตต์(กำลัง) เป็นหน่วยวัดของขนาดกำลังผลิต)
Terracotta ได้รับการอนุมัติจากสถาบันเทคโนโลยีอาคารแห่งเยอรมนี (DIBt) ให้ใช้งานได้ในอาคารทั่วไป ประกอบด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ TOPCon (ให้ประสิทธิภาพสูงและการตอบสนองต่อสภาพแสงที่แตกต่างกันได้อย่างดีเยี่ยม ชั้นอุโมงค์ออกไซด์มีความต้านทานการสัมผัสต่ำ) และมีประสิทธิภาพการแปลงพลังงาน 20.02% (ประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์ หรืแปริมาณแสงแดดที่แผงแปลงเป็นไฟฟ้า โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 15-23%)
ผลิตภัณฑ์นี้เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับการบูรณาการโซลาร์เซลล์เข้ากับสถาปัตยกรรมอย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการในการอนุรักษ์อาคารโบราณ
ทั้งนี้ การใช้พลังงานหมุนเวียนในอาคารที่อยู่ในรายการอนุรักษ์มักทำได้ยาก เนื่องจากข้อกำหนดที่เข้มงวด แต่แผงโซลาร์เซลล์ Terracotta จาก Sonnenkraft เอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ได้ ดังนั้นจึงให้ประโยชน์สองเท่า ในด้านหนึ่ง ช่วยให้สามารถติดตั้งระบบไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ในอาคารซึ่งก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เนื่องจากกฎระเบียบด้านการคุ้มครองอาคารเก่าแก่ ในทางกลับกัน ยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอาคารเหล่านี้ไว้ได้
Electrek สื่อที่นำเสนอข่าวสารด้านพลังงานทางเลือกวิเคราะห์ว่า โดยทั่วไปแผงโซลาร์เซลล์จะเป็นโพลีคริสตัลไลน์สีน้ำเงินหรือโมโนคริสตัลไลน์สีดำ ดังนั้นแผงที่ทำจากวัสดุ “ห่อหุ้มด้วยสีที่ทำให้เกิดเอฟเฟกต์สีแดงที่เป็นเนื้อเดียวกัน” ดังที่ Sonnenkraft ระบุไว้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ทั้งนี้ ในปี 2559 เทสลากล่าวว่าจะพัฒนากระเบื้องแก้วทัสคานีสีแดง แต่จนถึงปัจจุบันนี้ก็ไม่เคยพัฒนาแต่อย่างใด
*สำหรับตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ตามการคาดการณ์การของ The Business Research Company โดยจะเติบโตจาก 131,020 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2566 เป็น 169,810 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2567 ด้วยอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) 29.6% อันเป็นผลมาจากความกังวลด้านความปลอดภัยด้านพลังงาน การตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม สิ่งจูงใจของรัฐบาล ความเป็นอิสระด้านพลังงาน และนโยบายด้านความยั่งยืนขององค์กรต่างๆ
นอกจากนี้ ยังคาดว่าตลาดพลังงานแสงอาทิตย์จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยจะเติบโตเป็น 418,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2571 ด้วยอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) 25.3% โดยการเติบโตในช่วงประมาณการ เป็นผลมาจากการปรับปรุงระบบเครือข่าย, ความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น, การสร้างเมืองและการกระจายการผลิต, ข้อตกลงด้านสภาพภูมิอากาศทั่วโลก และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ของชุมชน ขณะที่เทรนด์สำคัญในช่วงประมาณการ ได้แก่ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแผงโซล่าเซลล์ ระบบติดตามแสงอาทิตย์ ระบบดิจิทัลและการรวมระบบสมาร์ทกริด การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยตัว และระบบพลังงานไฮบริด
แหล่งข้อมูล
https://www.salika.co/2024/05/08/terracotta-solar-cell-austria-old-building/