T.R.A.V.E.L กลยุทธ์ขับเคลื่อนท่องเที่ยวยุคใหม่โดยใช้ประโยชน์จากดิจิทัล

Share

Loading

Grab ส่งกลยุทธ์ T.R.A.V.E.L ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยุคใหม่ โดยผนึกเทคโนโลยีของ Grab เข้ากับทุกส่วนการท่องเที่ยว ทั้งการเดินทาง-อาหาร-ช้อปปิ้ง หวังเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวในงานเสวนาเชิงนโยบายประจำปี “GrabNEXT 2024: Driving towards the Future of Tourism ขับเคลื่อนการท่องเที่ยว สู่อนาคตที่ดีกว่า” ซึ่งจัดขึ้นโดย แกร็บ ประเทศไทย เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาแนวทางในการส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศ ด้วยการยกระดับการท่องเที่ยวไทยให้พร้อมตอบสนองพฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุคใหม่ โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงานว่า ข้อมูลท่องเที่ยวในไทยปีที่ผ่านมามีมูลค่า 2.13 ล้านล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตขึ้นไปอีก ทำให้เห็นว่าการท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

“การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวถือเป็นเป้าหมายหลักที่รัฐบาลเร่งผลักดันเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเมื่อเร็วๆ นี้รัฐบาลได้ประกาศวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งหนึ่งในวิสัยทัศน์สำคัญคือการพลิกฟื้นการท่องเที่ยว และตั้งเป้าผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) และการเป็น Top Destination ด้านการท่องเที่ยว”

การเข้ามามีส่วนร่วมของ Grab ผ่านกลยุทธ์  T.R.A.V.E.L.

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศและส่งเสริมเศรษฐกิจ แกร็บจึงได้จัดงาน GrabNEXT เพื่อนำความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี และความแข็งแกร่งของอีโคซิสเต็มของแกร็บที่ให้บริการครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาเติมเต็มและสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไร้รอยต่อ ผ่านกลยุทธ์  T.R.A.V.E.L. ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมายังประเทศไทย พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและมหภาค และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน”  

กลยุทธ์ T.R.A.V.E.L
  • T: Technological Integration การใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวตั้งแต่ตลอดการเดินทาง โดยพบว่า 87% ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวเองใช้จ่ายมากขึ้นและไปในสถานที่ใหม่มากขึ้น และมีการวางแผนล่วงหน้า จึงสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือส่วนนี้ได้  อาทิ หน้าจอต้อนรับนักท่องเที่ยวให้สามารถสำรวจและวางแผนการเดินทางบนแอปพลิเคชัน Grab การพัฒนาแอปพลิเคชันครอบคลุมภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่นและเกาหลี รวมถึงการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันชั้นนำเพื่อใช้บริการเรียกรถของ Grab ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง WeChat , book.com และ trip.com และยังขยายช่องทางการชำระเงินดิจิทัลผ่าน Alipay และ Kakao pay
  • R: Reliability การสร้างความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวด้วยการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย โดยมีการพัฒนา 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย สำหรับแจ้งของความช่วยเหลือ หรือฟีเจอร์ที่สามารถบันทึกเสียงระหว่างการเดินทางได้ ส่วนที่ 2 คือมาตรการด้านความปลอดภัย ด้วยการคัดกรองและอบรมพาร์ทเนอร์คนขับ และสุดท้ายคือการจัดแคมเปญรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัย ล่าสุดได้มีการจับมือกับกรุงเทพมหานครเพื่อรณรงค์เรื่องการขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
  • A: Accessibility ครอบคลุมและเข้าถึงทั่วไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรอง เนื่องจากรายได้จากการท่องเที่ยวเมืองรองในปีที่ผ่านมาสูงถึง 38% โดย Grab จะทำให้การเดินทางจากเมืองหลังไปเมืองรองนั้นไร้รอยต่อ โดยการเปิดบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันแล้วกว่า 71 จังหวัด รวมไปถึงยังทำความร่วมมือกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดจุดรับ-ส่งผู้โดยสารเพื่อให้บริการในสนามบินหลักได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ
  • V: Valuable Experience ประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำ ด้วยความเหนือระดับ กับบริการระดับพรีเมียม มุ่งเจาะนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มรายจ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยว โดยเน้นไปที่การพัฒนาศักยภาพของคนขับให้บริการด้วยมาตรฐาน สื่อสารภาษาต่างประเทศเบื้องต้นได้และขับขี่ปลอดภัย และยกระดับการบริการด้วย Grabcar Premiupm ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ
  • E: Environmentally Friendly การเดินทางแบบยั่งยืนที่รักษ์โลก พัฒนา ปกป้อง และอนุรักษ์สถานที่ท่องเที่ยว พร้อมลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการพัฒนาตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่าง Grab EV ที่ส่งเสริมให้พาร์เนอร์คนขับเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในการให้บริการเรียกรถ รวมไปถึงพัฒนาฟีเจอร์เพื่อชดเชยการปล่อยคาร์บอน
  • L: Local Touch การสนับสนุนชุมชนในท้องถิ่น ชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสความเป็นไทยแท้ ผ่านวัฒนธรรมประจำถิ่น เทศกาลงานพื้นบ้าน ชูจุดเด่นซอฟต์พาวเวอร์ โดยพบว่า 65% ของนักท่องเที่ยวอยากสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งตรงกับนโยบายที่จะผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ เช่น จากการส่งเสริมการเดินทางไปยังสถานที่น่าสนใจทำให้นักท่องเที่ยวไปดูมวยเพิ่มขึ้นผ่านบริการ GrabCar ถึง 150% หรือการสั่งผลิตภัณฑ์ชุมชนผ่าน GrabMart มากขึ้น 100% เป็นต้น

แหล่งข้อมูล

https://www.posttoday.com/smart-life/709019