หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยรุ่นใหม่ ใช้ AI แม่นยำดุจทหาร ค่าเช่า 3.6 แสน/เดือน

Share

Loading

  • หุ่นยนต์ลาดตระเวนอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี AI และเซ็นเซอร์ล้ำสมัย สามารถตรวจจับ สื่อสาร และแจ้งเตือนเมื่อพบสิ่งผิดปกติ
  • มีความสามารถสูงในการปฏิบัติงาน ทั้งลาดตระเวนได้ทุกสภาพภูมิประเทศ ทนต่อสภาวะแวดล้อมที่ยากลำบาก
  • มีการอัปเกรดเทคโนโลยีจากรุ่นก่อนหน้า เช่น กล้องและเซ็นเซอร์ที่ดีขึ้น ระบบนำทางและซอฟต์แวร์แม่นยำกว่าเดิม รวมถึงมีบริการให้เช่าใช้งานได้ด้วย

บริษัทผลิตหุ่นยนต์ฝรั่งเศส เปิดตัว Thalamus 2024 หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย 4 ล้อแบบอัตโนมัติรุ่นใหม่ ใช้ AI ประเมินความเสี่ยง พร้อมเซ็นเซอร์รักษาความปลอดภัยแบบจัดเต็มมาตรฐานทหาร

Thalamus 2024 หุ่นยนต์ลาดตระเวนรูปร่างแปลก ที่สามารถลาดตระเวนไปรอบๆ คอยจับตาดูสิ่งต่างๆ ลดภาระงานที่ซ้ำซ้อนและการลาดตระเวนที่มีความเสี่ยง ด้วยเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัยและความชาญฉลาดของปัญญาประดิษฐ์ หรือ เทคโนโลยี AI มันจึงพร้อมที่จะแจ้งเตือนทีมงานมนุษย์หากมีบางสิ่งที่น่าสงสัยปรากฏขึ้น

ด้วยน้ำหนัก 551 ปอนด์ ยาว 7.5 ฟุต และความเร็วสูงสุด 18.6 ไมล์ต่อชั่วโมง Thalamus ยังเสริมฟังก์ชันหลักของการตรวจจับและการสื่อสาร ขับเคลื่อนโดยโมดูลปัญญาประดิษฐ์สองโมดูล และแนวคิดการเคลื่อนที่เป็นนวัตกรรม สามารถลาดตระเวนทั้งกลางวันและกลางคืนโดยอัตโนมัติ ฝ่าฟันทุกสภาพภูมิประเทศ ไปได้แม้แต่ภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุดได้อย่างง่ายดาย

หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย Thalamus ติดตั้งกล้องอินฟราเรดสี่ตัว รวมถึงกล้อง PTZ ที่ควบคุมจากระยะไกล ซึ่งให้มุมมอง 360 องศา ภาพทั้งหมดจะถูกบันทึกในรูปแบบ HD และวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ด้วยอัลกอริธึมปัญญาประดิษฐ์อันทรงพลังในตัวหุ่น ทำให้สามารถระบุได้ว่าคน ยานพาหนะ สัตว์ หรือวัตถุใดไม่ควรอยู่ในพื้นที่ตรวจจับ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปยังศูนย์ หรือสัญญาณเตือนไปยังภัยคุกคามแบบเสียงและภาพ พร้อมด้วยข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าการตอบสนองจะรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย Thalamus แตกต่างจากมาตรการรักษาความปลอดภัยแบบเดิมๆ

  1. เพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย: Thalamus ติดตั้งเซ็นเซอร์ขั้นสูงและอัลกอริธึม AI ติดตามและลาดตระเวนพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อนอย่างต่อเนื่อง
  2. ลดต้นทุนการดำเนินงาน: ด้วยการบูรณาการกับโครงสร้างความปลอดภัยที่มีอยู่ หุ่นยนต์อัตโนมัตินี้เพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากร ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นสำหรับพนักงานมนุษย์
  3. ลดเวลาตอบสนองต่อเหตุการณ์: ด้วยความสามารถในการระบุภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว Thalamus จะส่งการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ไปยังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีการตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำเพื่อลดความเสี่ยง
  4. ลดความเสี่ยงให้กับบุคลากร: ด้วยความสามารถในการนำทางที่หลากหลายและความสามารถในการจัดการกับสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย Thalamus จึงลดความจำเป็นในการมีมนุษย์อยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงได้อย่างมาก และปกป้องพนักงานจากอันตราย

สำหรับสภาพแวดล้อมที่มีความร้อน ความชื้น และฝุ่นละอองสูง ยังมีรุ่น Thalamus Tropical ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อทนต่อสภาวะที่ยากลำบากที่สุด กล้องสามารถทนต่อลมได้สูงถึง 152 ไมล์ต่อชั่วโมง และน้ำหนัก 551 ปอนด์ของหุ่นยนต์ให้ความเสถียรที่จำเป็นต่อการทำงานต่อไปในทุกสถานการณ์

หลังจากการเปิดตัวหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยอัตโนมัติตัวแรกเมื่อสามปีก่อน Thalamus รุ่นปี 2024 ได้อัพเกรดความสามารถเพิ่มขึ้นหลายด้าน

  1. กล้อง PTZ มาตรฐานทางการทหารรุ่นใหม่ที่มีข้อกำหนดทางเทคนิคที่โดดเด่นเพื่อการมองเห็นและความละเอียดในระยะไกลที่ดีขึ้น
  2. การเปลี่ยนกล้องมองภาพ 360 องศาด้วยเซ็นเซอร์แสงน้อยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อการมองเห็นตอนกลางคืนที่เหนือกว่า
  3. ไฟสปอร์ตไลท์ทรงพลังสองแถวสลับระหว่างแสงอินฟราเรดและแสงที่มองเห็นได้ ช่วยให้หุ่นยนต์มองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืน
  4. ระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ใหม่เพื่อความแม่นยำยิ่งขึ้นในการนำทางด้วย GPS และความสามารถในการนำทางโดยไม่ต้องใช้ GPS
  5. เพิ่มพลังเสียงเพื่อการส่งข้อความเชิงปฏิเสธที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

โดยหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย Thalamus 2024 ตัวแรกกำลังได้รับการผลิตและจะส่งมอบในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ให้กับลูกค้าในสหรัฐโดยยังไม่เปิดเผยราคาที่แน่นอนของหุ่นยนต์ นอกจากนี้บริษัทยังได้นำเสนอเป็นหุ่นยนต์เช่าบริการ โดยมีค่าธรรมเนียมในช่วงประมาณ 10,000 เหรียญต่อเดือน หรือ ราวๆ 360,000 บาทต่อเดือน

แหล่งข้อมูล

https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/850772