ดีอีจับมือสธ. เดินหน้าระบบ Health Link และ คลาวด์กลางด้านสาธารณสุข (MOPH Cloud) เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระดับชาติ สมัครฟรีผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบไร้รอยต่อ และอำนวยความสะดวกในการให้และใช้บริการภาครัฐให้กับประชาชน ถือเป็นหนึ่งนโยบายสำคัญของรัฐบาล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จึงได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผลักดันให้เกิดระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ (Health Information Exchange -HIE) ระดับประเทศ โดยการพัฒนาระบบ Health Link และ คลาวด์กลางด้านสาธารณสุข (MOPH Cloud) ขึ้นมา มีการกำหนดมาตรฐานกลางร่วมกับโรงพยาบาลในภาคี พร้อมผลักดันให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานสำคัญในแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ เพื่อขับเคลื่อนการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระดับชาติ
ระบบ HIE เป็นระบบที่จะเชื่อมโยงและใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลประวัติสุขภาพและการรักษาระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ ให้ช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงข้อมูล โดยต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ป่วยเท่านั้น รวมถึงในกรณีการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน (หมดสติ) ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและการส่งต่อ นอกจากนี้สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) (Big Data Institute: BDI) ดีอี และ สธ. ยังได้ร่วมกันวางแผนขับเคลื่อนการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระดับชาติ รวมทั้งกำหนดแผนปฏิบัติการ และกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพที่สามารถนำไปใช้พัฒนาระบบบริการสุขภาพทั่วประเทศ โดย ดีอี เริ่มจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร
เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพที่สามารถนำไปใช้พัฒนาระบบบริการสุขภาพทั่วประเทศ โดยได้เริ่มดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต่อด้วยจังหวัดนครราชสีมาในหน่วยบริการปฐมภูมิและ โรงพยาบาลนอกสังกัด สธ จากนั้น ดีอี จะจับมือกับ สธ. ผ่านโครงการคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข (MOPH Cloud) ขยายผลให้ครอบคลุมทุกหน่วยบริการ และจะผลักดันจังหวัดนครราชสีมาสู่การเป็นต้นแบบในการบูรณาการข้อมูลสุขภาพอย่างเป็นระบบ รวมถึงจัดทำแผนงบประมาณระยะยาว ให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด ยกระดับระบบสาธารณสุขไทยได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ปัจจุบัน Health Link มีสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ
แหล่งข้อมูล