Scientific Reports เผยแพร่ผลงานวิจัยเมื่อวันที่ 14-11-2024 ใน Nature มีบทสรุปว่า ผู้คนแยกแยะความแตกต่างระหว่างบทกวีที่เขียนโดยมนุษย์หรือ AI ไม่ได้ และชอบงานของ AI มากกว่า
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้มีมากกว่า 1,600 คน ซึ่งไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านบทกวี เมื่อเอาบทกวีให้อ่าน แล้วให้แยกแยะว่าเป็นผลงานของมนุษย์หรือ AI ผลปรากฏว่าตอบได้ถูกต้อง 46.6% ซึ่งหมายถึงคะแนนที่ต่ำกว่าการเดาสุ่ม (50/50)
ตัวอย่างบทกวีอังกฤษ มาจากนักเขียนชื่อดังของโลก เช่น William Shakespeare, Samuel Butler, Lord Byron, Emily Dickinson, T.S. Eliot
Generative AI ที่เขียนบทกวีเลียนแบบสไตล์ของนักเขียนดัง คือ ChatGPT 3.5
หัวข้อที่ใช้ในการประเมินคุณภาพบทกวีมี 13 หัวข้อ เช่น จังหวะ ความไพเราะ การสื่อความหมาย ผลกระทบทางอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ AI ได้คะแนนมากกว่างานที่เขียนโดยมนุษย์เกือบทุกด้าน ยกเว้นเพียงด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
ทางทีมวิจัยอธิบายว่าสาเหตุที่ผู้อ่านส่วนใหญ่ชื่นชอบบทกวีของ AI มากกว่า เพราะ
- บทกวี AI มีความตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย
- ไม่ซับซ้อนเชิงอุปมาอุปไมยเหมือนกับบทกวีของมนุษย์
- อ่านแล้วไม่ต้องตีความเชิงลึก
เมื่อผู้เข้าร่วมการทดลองได้รับแจ้งอย่างชัดเจนว่า บทกวีที่กำลังอ่านอยู่สร้างโดย AI พวกเขาจะให้คะแนนในหัวข้อต่างๆต่ำลง ซึ่งเกิดจาก Bias หรือ อคติที่มีต่อ AI เพราะผู้คนส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อว่า AI ไม่น่าจะสร้างงานศิลปะที่มีคุณภาพดีได้
ผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า AI สามารถสื่อสารแบบบทกวีได้ดีกว่ามนุษย์ และ AI สามารถสร้างงานที่มีคุณภาพได้จริง จุดอ่อนต่างๆของ AI นักพัฒนารู้ดีว่ามีอะไรบ้าง และกำลังพัฒนาให้มันมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
AI กำลังถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วในงานเกือบทุกด้าน ภายในสิบปีจากวันนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิด AGI หรือ Artificial General Intelligence ซึ่งหมายถึง AI ที่มีความสามารถระดับมนุษย์ในทุกด้าน สามารถเรียนรู้และแก้ปัญหาได้เหมือนมนุษย์
ในระยะยาว จะเกิด ASI หรือ Artificial Superintelligence ซึ่งหมายถึง AI ที่มีความสามารถเหนือกว่ามนุษย์ในทุกด้าน
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1050054683799874&set=a.687193000086046