หุ่นยนต์เรียนรู้การผ่าตัดจากวิดีโอ มีฝีมือเทียบเท่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

Share

Loading

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮิปกินส์ และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ฝึกฝน da Vinci Surgical System ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ผ่าตัด AI เรียนรู้และฝึกฝนตัวเองด้วยการเลียนแบบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัด ผ่านทางวิดีโอ

ช่วงที่ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดจริงด้วยมือหุ่นยนต์ จะมีการบันทึกวิดีโอจากกล้องที่ติดตั้งบนข้อมือของหุ่นยนต์ ซึ่งเป็นการบันทึกไว้สำหรับการวิเคราะห์หลังการผ่าตัดก่อนจะถูกเก็บเข้าคลังข้อมูล คลิปวิดีโอหลายร้อยคลิปที่ศัลยแพทย์เคยทำงานจากคลังข้อมูลขนาดใหญ่ ถูกใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการฝึกฝนหุ่นยนต์ โดยมันจะเลียนแบบการทำงานของแพทย์ที่เป็นคนจริง หุ่นยนต์ที่ได้รับการฝึกฝนครั้งแรกด้วยการดูวิดีโอของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถดำเนินการผ่าตัดได้เทียบเท่ากับแพทย์มนุษย์

ในการวิจัยครั้งนี้ มีการฝึกฝนหุ่นยนต์ผ่าตัดสำหรับการทำงานพื้นฐาน 3 อย่าง คือ การจัดการกับเข็ม การยกเนื้อเยื่อ และการเย็บแผล

AI ที่ใช้ใน da Vinci Surgical System เป็นโมเดลผสมผสานการเรียนรู้แบบเลียนแบบเข้ากับสถาปัตยกรรมการเรียนรู้ของเครื่อง เหมือนกับระบบที่ใช้ใน ChatGPT แต่เป็นการสื่อสารกับมันด้วย “ภาษาหุ่นยนต์” ด้วยจลนศาสตร์ ซึ่งเป็นภาษาที่แปลงมุมการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ให้เป็นคณิตศาสตร์

การฝึกฝน da Vinci Surgical System ใช้วิธีการสอนมันให้เรียนรู้จากภาพในวิดีโอ มิได้กำหนดวิธีการผ่าตัดแต่ละขั้นตอนแบบเฉพาะเจาะจง

AI เรียนรู้จากคลิปวิดีโอที่แพทย์เคยผ่าตัดจริง แล้วมันจะหาทางที่เหมาะสมเอง มันเรียนรู้ขั้นตอนและปรับใช้กับสภาพแวดล้อมใหม่ที่มันไม่เคยเจอมาก่อนได้ ถ้าเข็มหล่น มันจะหยิบขึ้นมาเองและทำงานต่อโดยอัตโนมัติ และนี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกฝนเคยสอนให้มันทำ

ผลการวิจัยครั้งนี้ ชี้ให้เห็นโอกาสความก้าวหน้าในการผ่าตัดหลายเรื่อง การฝึกฝนสร้างหุ่นยนต์ผ่าตัดที่เก่งในระดับเดียวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำได้ง่ายขึ้น AI ช่วยทำให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้และปรับตัวกับการผ่าตัดหลายแบบได้อย่างรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดสั่งงานสำหรับการเคลื่อนไหวแต่ละอย่างแบบเฉพาะเจาะจง

ต่อไปจะมีการฝึกฝนให้หุ่นยนต์ AI เรียนรู้การผ่าตัดที่ซับซ้อนหลายรูปแบบ เมื่อหุ่นยนต์แบบเดียวกับ da Vinci Surgical System เรียนรู้และทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นหมายความว่า โรงพยาบาลไหนมีหุ่นยนต์ผ่าตัดแบบนี้ไว้ใช้งาน ก็จะเหมือนกับการมีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไว้ใช้งาน และสามารถมีอยู่ในทุกโรงพยาบาลทั่วโลก!!!

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1048327120639297&set=a.687193000086046