เผยโฉม SK6000 เครนเทพ! จากเนเธอร์แลนด์

Share

Loading

Mammoet จากเนเธอร์แลนด์ สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในวงการวิศวกรรมด้วยการเปิดตัว SK6000 เครนบนพื้นดินที่ทรงพลังที่สุดในโลก! ไม่เพียงแต่เป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดทางเทคโนโลยีการยกของหนัก แต่ยังจะเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินโครงการก่อสร้างทั่วโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะเห็นถึงการยกระดับทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความยั่งยืน

ความน่าทึ่งของเครน SK6000 คือ มันสามารถยกของได้ถึง 6,000 ตัน (เทียบเท่ากับเครื่องบินโดยสารแอร์บัส 380 ที่บรรทุกผู้โดยสารเต็มความจุ 5 ลำ) ซึ่งทำให้กลายเป็นเครนบนพื้นดินที่ทรงพลังที่สุดนอกจากนี้ยังสามารถยกชิ้นส่วนได้ถึง 3,000 ตัน และยกได้สูงถึง 220 เมตร เมื่อใช้บูมแบบคงที่ อีกทั้งยังสามารถยกได้ถึง 274 เมตร หากติดตั้งบูมพิเศษ

สำหรับ “บูมแบบคงที่” หรือในศัพท์ทางวิศวกรรมเรียกว่า “Fixed Boom” คือส่วนของเครนที่มีความยาวและมุมในการยกของที่คงที่ ไม่สามารถปรับเปลี่ยนหรือขยายได้เหมือนกับบูมประเภทอื่นๆ ที่สามารถยืดหรือปรับมุมได้ บูมแบบคงที่มักถูกออกแบบมาเพื่อให้มีความเสถียรสูงในการยกของหนักในระยะทางหรือความสูงที่กำหนด โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนทิศทางหรือความยาวของบูมระหว่างการใช้งาน ส่วน “บูมพิเศษ” ในที่นี้หมายถึง “Extended Boom” หรือ “Telescopic Boom” ซึ่งเป็นส่วนของเครนที่สามารถยืดหรือขยายออกได้ เพื่อเพิ่มระยะการยกของหรือความสูงในการยก โดยสามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการในการทำงาน ทำให้เครนมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น และสามารถยกของในระยะที่ไกลหรือสูงขึ้นได้ตามความจำเป็น

เครน SK6000 ยังได้รับการออกแบบให้รองรับน้ำหนักมหาศาลด้วยโครงสร้างที่เน้นความมั่นคงสูงสุด โดยใช้หินโรยทางน้ำหนักรวมถึง 4,200 ตันเป็นฐานถ่วงน้ำหนัก เพื่อเพิ่มเสถียรภาพขณะปฏิบัติงาน นอกจากนี้ เครนยังถูกออกแบบให้สามารถกระจายแรงกดบนพื้นได้สูงสุดถึง 30 ตันต่อตารางเมตร ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการทรุดตัวของพื้นและเพิ่มความปลอดภัยในการยกของหนักระดับสูงสุด ทั้งหมดนี้ทำให้ SK6000 เป็นเครนที่ผสานความแข็งแกร่งและเสถียรภาพได้อย่างลงตัวสำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องการความแม่นยำและประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ เครน SK6000 ถูกพัฒนาด้วยแนวคิดที่มุ่งเน้นความยั่งยืน โดยสามารถทำงานได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบผ่านสองทางเลือกหลัก ได้แก่ การใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จซ้ำได้ หรือการเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าจากกริดโดยตรง การออกแบบนี้ช่วยลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้การปล่อยคาร์บอนจากโครงการก่อสร้างลดลงอย่างมาก  

Niek Bezuijen ที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนระดับโลกของ Mammoet กล่าวว่า “SK6000 ทำงานในพื้นที่โครงการใดๆ ได้ โดยไม่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และการใช้ไฟฟ้าไม่ใช่ปัญหาสำหรับอนาคตของการยกของหนักอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นในตอนนี้ และด้วยนวัตกรรมเช่นนี้ Mammoet สามารถช่วยให้ลูกค้าเป็นผู้นำในด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และต้นทุนได้

จากการที่เครนนี้จะทำงานโดยตรงจากกริดโดยเสียบปลั๊กเข้ากับเครือข่ายแรงดันปานกลาง ซึ่งมักมีอยู่ในอุตสาหกรรมหนัก ที่ท่าเรือ การเชื่อมต่อที่เรียกว่า ‘ไฟฟ้าจากฝั่ง’ ซึ่งโดยทั่วไปใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เรือบรรทุกสินค้าจอดรออยู่ที่ท่าเรือ สามารถจ่ายไฟให้กับเครนได้ ส่วนฟังก์ชันการทำงานของแบตเตอรี่ช่วยให้มีตัวเลือกเพิ่มเติม โดยมีข้อดีเพิ่มเติมคือสามารถชาร์จจากเครือข่ายพลังงานต่ำได้”

คุณสมบัตินี้ไม่เพียงตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนระดับโลก (Global Sustainability Goals) ที่มุ่งเน้นการลดรอยเท้าคาร์บอน (Carbon Footprint) และการสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง SK6000 จึงไม่ได้เป็นเพียงเครนยกของหนักที่ทรงพลัง แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างยุคใหม่สู่ความยั่งยืนอีกด้วย

ขณะเดียวกัน เครน SK6000 ยังได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูงในการขนส่ง โดยสามารถถอดประกอบเป็นชิ้นส่วนต่างๆ และบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐานได้ทั้งหมด ใช้จำนวนตู้คอนเทนเนอร์เพียง 300 ตู้สำหรับการขนส่งไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลก ด้วยการออกแบบแบบแยกส่วน (Modular Design) นี้ ไม่เพียงช่วยลดความยุ่งยากในการขนส่ง แต่ยังทำให้การติดตั้งและประกอบเครนในสถานที่ทำงานรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไซต์ก่อสร้างในเมืองใหญ่หรือโครงการในพื้นที่ห่างไกล การออกแบบเช่นนี้ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในงานก่อสร้างขนาดใหญ่ และลดเวลาในการเริ่มต้นโครงการได้อย่างมีนัยสำคัญ  

SK6000 จึงเป็นเครนที่ผสานความทรงพลังและความสะดวกในการขนส่งได้อย่างลงตัว รองรับการใช้งานในทุกมุมโลกได้อย่างไม่มีข้อจำกัด

คาดว่า SK6000 จะมีบทบาทสำคัญในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะในอภิมหาโครงการที่ต้องการยกของหนักและอุปกรณ์ขนาดใหญ่ ด้วยศักยภาพที่เหนือชั้นซึ่งพร้อมตอบสนองความต้องการในหลากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะในโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างมหึมาและมีความซับซ้อนสูง เช่น ในอุตสาหกรรมพลังงานลมนอกชายฝั่ง SK6000 จะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับการประกอบและติดตั้งกังหันลมขนาดใหญ่ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นในยุคที่พลังงานหมุนเวียนกลายเป็นหัวใจสำคัญของอนาคตที่ยั่งยืน

ส่วนในภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ เครนนี้จะช่วยเร่งกระบวนการก่อสร้างและปรับปรุงประสิทธิภาพในโครงการลอยน้ำนอกชายฝั่ง (Floating Offshore Projects) ซึ่งเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและติดตั้งโครงสร้างหรือระบบที่ลอยตัวในทะเลเพื่อใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานลมนอกชายฝั่ง โครงการประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อติดตั้งในพื้นที่น้ำลึก ซึ่งโครงสร้างแบบยึดติดพื้นทะเล (Fixed Platforms) ไม่สามารถใช้งานได้ 

ขณะเดียวกัน เครน SK6000 ยังรับบทพระเอกในการขยายโรงงานน้ำมันและก๊าซบนบก ด้วยความสามารถในการยกชิ้นส่วนขนาดใหญ่ในคราวเดียว กระบวนการทำงานที่เคยซับซ้อนและใช้เวลานานจึงสามารถดำเนินการได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  

นอกจากนี้ SK6000 ยังแสดงศักยภาพที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมโรงงานนิวเคลียร์ ซึ่งการก่อสร้างแบบแยกส่วนหรือ “Modular Construction” ได้รับการยอมรับว่าเป็นแนวทางที่ปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด ด้วยการรองรับชิ้นส่วนขนาดใหญ่และซับซ้อน เครนนี้จึงช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในระหว่างการติดตั้ง พร้อมทั้งเร่งระยะเวลาในการดำเนินโครงการให้เสร็จสิ้นได้เร็วขึ้น  

ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและศักยภาพอันไร้ขีดจำกัด SK6000 จึงไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์ยกของหนัก แต่ยังเป็นเครื่องมือเปลี่ยนโฉมการดำเนินโครงการในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ สู่มาตรฐานใหม่ที่ผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืนในอนาคต

ปัจจุบัน SK6000 กำลังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบที่โรงงานของ Mammoet ในเมืองเวสต์ดอร์ป ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยการประกอบเครนนี้ต้องใช้เครนที่มีอยู่ของ Mammoet เพื่อช่วยในการติดตั้ง ซึ่งบริษัทได้อธิบายว่าเป็นผลงานทางวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม

SK6000 ของ Mammoet ไม่เพียงแค่เป็นนวัตกรรมทางวิศวกรรม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในอุตสาหกรรมการก่อสร้างขนาดใหญ่ เครนนี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการยกของหนัก พร้อมทั้งสนับสนุนการทำงานที่ยั่งยืนในโครงการต่างๆ และคาดว่าในอนาคตจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญของอุตสาหกรรมพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน

สำหรับ Mammoet เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการยกและขนย้ายโครงสร้างขนาดใหญ่และหนัก (Heavy Lifting and Transport) ก่อตั้งขึ้นในปี 1807 ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 217 ปี Mammoet ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและการแก้ปัญหาอันซับซ้อนสำหรับโครงการขนาดใหญ่ทั่วโลก

แหล่งข้อมูล

https://www.salika.co/2024/12/24/sk6000-crane-revolution/