เจาะกลยุทธ์ ‘AI’ ปูทางสู่ความปกติใหม่ ‘โลกนวัตกรรม’

Share

Loading

วันนี้ “ปัญญาประดิษฐ์” ได้ก้าวข้ามจากจินตนาการในนิยาย มาสู่ความเป็นจริงในชีวิตประจำวันและเข้ามามีบทบาททุกหนแห่งในชั่วข้ามคืน…

สุพรรณี อำนาจมงคล ผู้จัดการประจำประเทศไทย เร้ดแฮท เปิดมุมมองว่า AI นับเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่มีอินเทอร์เน็ต

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากการประเมินพบว่า “โปรเจกต์ AI มากกว่า 80% ต้องเผชิญกับความล้มเหลว” นั่นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความไม่สอดคล้องกัน ระหว่างแนวคิดของผู้คนและองค์กรเกี่ยวกับ AI และ ML กับแนวทางที่ผู้คนและองค์กรเหล่านั้นใช้ในการก้าวสู่ยุคแห่งนวัตกรรม หากเป็นเช่นนั้น องค์กรจะหลีกเลี่ยงความล้มเหลวและลดความเสี่ยงในการทำโปรเจกต์ AI ได้อย่างไร?

ทำความเข้าใจ ‘จุดแข็ง-จุดอ่อน’

สำหรับ สิ่งที่ควรทำก่อนเริ่มโปรเจกต์ AI ที่ประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย การทำความเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของ AI, วางแนวทางการใช้งาน AI ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านเป้าหมายของธุรกิจ, ศึกษาการใช้ AI จากธุรกิจอื่นๆ, รวบรวมทีม AI จากบุคลากรที่อยู่ในสายงานต่างๆ ไว้ด้วยกัน, ประเมินความพร้อมด้าน AI ภายในองค์กร และ พัฒนาวัฒนธรรมองค์กรด้านนวัตกรรม

ทำความเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของ AI : เรามักเข้าใจกันว่า Generative AI (Gen AI) เก่งมาก รอบรู้ไปทุกเรื่อง และเข้าใจความหมายของคอนเทนต์ที่ตัวเองสร้างขึ้น แต่ในความจริงแล้วแอปพลิเคชัน Gen AI ไม่ได้เข้าใจคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นมา และ “ไม่ได้ฉลาด” อย่างที่เข้าใจกัน เพราะเป็นเพียงแอปเติมข้อความอัตโนมัติ (autocomplete apps) ที่มีความสามารถสูงในการจดจำและเลียนแบบรูปแบบภาษา รวมถึงการเชื่อมโยงคำต่างๆ โดยอาศัยการประมวลผลจากข้อมูลที่มี ซึ่งล้วนต้องพึ่งพาการฝึกฝนจากคน

ด้วยความสามารถที่ดูน่าเชื่อถือ จึงง่ายที่จะเชื่อว่า Gen AI มีความสามารถในการทำงานที่ซับซ้อนและงานที่ล้ำหน้าต่างๆ ได้ ทว่าความเชื่อเช่นนี้อาจนำไปสู่ความล้มเหลวได้ หากงานที่ Gen AI ได้รับมอบหมายนั้นเกินขีดความสามารถของเทคโนโลยี AI ในปัจจุบัน

มอง Gen AI ตามความจริง

จุดแข็งและจุดอ่อนของ Gen AI : สิ่งที่ Gen AI ทำได้ดี คือ การประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล, การวิเคราะห์ข้อมูล, การจัดรูปแบบข้อความใหม่, ทำงานที่ง่ายและต้องทำซ้ำๆ ได้โดยอัตโนมัติ, การดึงและสรุปข้อมูล, การจับคู่และระบุรูปแบบ, การจำแนกข้อมูล, ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการระดมความคิด

ขณะที่ จุดอ่อนของ Gen AI คือ ไม่สามารถคิดหรือให้เหตุผลได้จริง, ไม่สามารถเข้าใจบริบทได้เองโดยไม่มีการระบุคำสั่งที่ชัดเจน, ไม่สามารถทำงานที่มีความซับซ้อนได้, ไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไรบ้าง จึงมีแนวโน้มที่จะสร้างภาพหลอนหรือการตีความข้อมูลและให้ข้อมูลที่ผิดพลาด, ไม่สามารถผลิตผลงานที่เป็นต้นฉบับได้, ขาดความสามารถในการสร้างสรรค์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ในทุกมิติ และไม่มีพื้นฐานความเข้าใจด้านจริยะธรรมและความเอื้ออาทร

สำหรับ การวางแนวทางการใช้ AI ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจ : แม้ว่า AI จะได้รับความสนใจอย่างมาก แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในการใช้งานจริง และไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ องค์กรจึงต้องพิจารณานำ AI มาใช้ให้สอดคล้องอย่างแท้จริงกับกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีอยู่

สุดท้ายแล้ว แอปพลิเคชัน AI ที่องค์กรพัฒนาขึ้นจะทำงานอยู่เบื้องหลัง เป็นองค์ประกอบที่แทบมองไม่เห็นในแอปพลิเคชัน บริการ และกระบวนการต่างๆ ผู้ใช้งานหรือลูกค้าจะไม่รับรู้ถึงการทำงานของ AI โดยตรง โดยสิ่งที่ลูกค้าจะสัมผัสได้คือแอปพลิเคชันที่ฉลาดขึ้น บริการที่ใช้งานง่ายขึ้น และกระบวนการที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น องค์ประกอบต่างๆ ของ AI จะช่วยให้องค์กรประมวลข้อมูล ความรู้ และความเชี่ยวชาญขององค์กรใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นและสอดคล้องกันมากขึ้นในทุกด้านให้กับลูกค้า

องค์กรที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ AI ต้องจัดลำดับความสำคัญว่าจะนำ AI ไปใช้งาน ณ จุดใด จึงจะได้รับประโยชน์ในระยะเวลาอันใกล้ หลีกเลี่ยงการนำ AI ไปใช้กับกระบวนการหลักทางธุรกิจ จนกว่าจะมีความเข้าใจการทำงานของ AI และแน่ใจว่าข้อมูลที่องค์กรป้อนให้ AI มีความเพียงพอ

ตั้ง ‘ทีมเฉพาะกิจ’ ดูแล

ศึกษาตัวอย่างการใช้ AI จากธุรกิจอื่นๆ : องค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรมกำลังใช้ AI อย่างสร้างสรรค์และเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งอาจเป็นแรงบันดาลใจสำหรับแนวทางการนำ AI ไปประยุกต์ใช้และทดลองในองค์กรของคุณ หลายกรณีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า และช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น

จัดตั้งทีม AI จากบุคลากรข้ามสายงาน : การพัฒนาโปรเจกต์ AI จำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความรู้ด้านต่างๆ จากทุกภาคส่วนขององค์กร ดังนี้ วิทยาศาสตร์ข้อมูลและการวิเคราะห์, ไอที/วิศวกรรม, การพัฒนาแอปพลิเคชัน, การจัดการข้อมูล, กลยุทธ์ทางธุรกิจ, การวิจัยผู้ใช้, การตลาดและการสื่อสาร, กฎหมาย/ข้อกำหนด, ผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทีมที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา จะมีมุมมอง ประสบการณ์ และความคิดเห็นที่หลากหลายที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ศูนย์ความเป็นเลิศนี้จะช่วยให้แน่ใจว่าการใช้ศักยภาพของ AI ในงานด้านต่างๆ นั้น จะสอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร และมีความเป็นไปได้ในเชิงเทคนิค

ทีม AI ข้ามสายงานยังช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบุคลากรและทีมต่างๆ ที่ปกติแล้วอาจจะไม่ค่อยได้มีปฏิสัมพันธ์กัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนแนวคิด ข้อมูลเชิงลึก และความเชี่ยวชาญได้ดียิ่งขึ้น

เริ่มที่ ‘คน – วัฒนธรรมองค์กร’

ประเมินความพร้อมด้าน AI ขององค์กร : การพัฒนาโปรเจกต์ Gen AI จะไม่ได้ผล หากองค์กรยังขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ข้อมูล หรือโครงสร้างพื้นฐาน ทีม AI ที่ประกอบด้วยบุคลากรที่มาจากสายงานต่างๆ จะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าจะนำ AI เข้ามาใช้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขององค์กรได้มากน้อยเพียงใด

เพราะแต่ละคนต่างมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนที่ชัดเจน เมื่อสามารถระบุจุดอ่อนที่ชัดแจนได้ องค์กรก็สามารถจัดลำดับความสำคัญในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการพัฒนาและการฝึกฝน AI ได้อย่างเหมาะสม

พัฒนาวัฒนธรรมองค์กรในเชิงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ : ยุคของ AI เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น การเริ่มทดลองและนำไปใช้งานขององค์กร เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น การสร้างวัฒนธรรมเชิงนวัตกรรมในองค์กรจะช่วยให้องค์กรพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ AI จะนำมา ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มีคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับวิธีการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นไปในเชิงนวัตกรรมมากขึ้น โดยมีสามแนวทางในการเริ่มต้น คือ ปลูกฝังแนวคิดแห่งการทดลอง, ส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและ ลงทุนพัฒนาบุคลากร

แหล่งข้อมูล

https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1168574