ประเทศจีนถือว่าเป็นประเทศที่มีการใช้ระบบตรวจจับและคัดกรองคนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดโดยมีการลงทุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในอันดับต้นๆ ของโลกรวมถึงเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า
ทีมนักพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัท Hanwang Technology ได้นำฐานข้อมูลจากตัวอย่างที่มีประมาณ 6 ล้านใบหน้าและฐานข้อมูลส่วนย่อยนอกเหนือจากฐานข้อมูลหลักของรัฐที่ถูกปกปิดไว้ เพื่อนำมาพัฒนาเทคโนโลยีจดจำใบหน้าด้วย Data และ AI แต่การพัฒนานี้กลับสามารถต่อยอดสู่เครื่องมือทางการแพทย์ที่สามารถตรวจอุณหภูมิหาผู้ติดเชื้อพร้อมกับการยืนยันตัวตนผ่าน Facial Recognition ได้อีกด้วย
ตัวแทนจาก Hanwang Technology กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่จีนสามารถพัฒนาเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าที่สามารถยืนยันตัวตนของผู้คนได้ถึงแม้จะสวมหน้ากากบนใบหน้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีครั้งนี้ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและในทางกลับกันข้อมูลจากระบบมีส่วนช่วยในการนำมาใช้ต่อสู่กับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสในครั้งนี้ได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากการเทคโนโลยีนี้สามารถจดจำใบหน้าได้แล้วยังสามารถนำมาเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิมันสามารถวัดอุณหภูมิของร่างกายในขณะที่ระบุชื่อของบุคคลและจากนั้นระบบจะประมวลผลผลลัพธ์แจ้งเตือนหากตรวจจับอุณหภูมิได้มากกว่า 38 องศาพร้อมประวัติพื้นฐานของบุคคลนั้นและส่งข้อมูลเจ้าหน้าที่ทันที ซึ่งมีความแม่นยำในการตรวจพบถึง 95%
ถึงแม้ในโลกโซเชี่ยลจะมีกระแสวิภาควิจารณ์ถึงสิทธิส่วนบุคคลต่อรัฐบาลที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ แต่เมื่อตกอยู่ในสถานการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ก็ทำให้เทคโนโลยีนี้ถูกยอมรับในกลุ่มประชาชนมากขึ้นเพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดอัตราความเสี่ยงของผู้ติดเชื้อได้ และคาดหวังว่าจะได้รับความสนใจจากต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากไวรัสแพร่กระจายไปทั่วโลกและผู้คนจำนวนมากสวมหน้ากากอนามัย
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :