สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับ 12 สถานพยาบาลของรัฐในเบื้องต้น ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสนับสนุนเงินเพื่อรับมือCOVID-19 ผ่านระบบเซ็นเอกสารทางออนไลน์ของ Creden.co บริษัทเทคโนโลยีด้านการเซ็นเอกสารออนไลน์ของไทย โดยทำการสนับสนุนเงินจากการปรับเปลี่ยนงบประมาณของสำนักงาน กสทช. เอง และเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนาเพื่อสู้สถานการณ์ “ไวรัสโคโรน่า (COVID-19)” ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ 1,000 ล้านบาท
เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปได้รวดเร็วและไม่ต้องเดินทางไปมาระหว่างกันลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเพิ่มขึ้นทางสำนักงาน กสทช. จึงเลือกใช้การลงนามผ่านทางระบบเซ็นเอกสารทางออนไลน์ของทาง Creden.co ร่วมกับทาง 12 สถานพยาบาลของรัฐที่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศไทย เช่น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลระยอง, โรงพยาบาลของแก่น, คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น เพื่อดำเนินการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ในครั้งนี้ เป็นการลงนามเอกสารร่วมกันได้อย่างรวดเร็วผ่านทางออนไลน์ และถูกหลักตามมาตรฐานกฎหมาย โดยเอกสารที่เซ็นมีการลงนามร่วมกันถึง 14 ท่าน ลงนามจากจากต่างสถานที่และต่างองค์กร โดยเพียงแค่ใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือก็สามารถเข้าสู่การลงนามและเซ็นทางออนไลน์ของ http://www.creden.co บริษัท Startup ด้านการยืนยันตัวตนและเซ็นเอกสารออนไลน์ eSignature ของไทย
โดยเอกสารที่ลงนามผ่าน Creden.co ลายเซ็นดิจิทัล (eSignature) จะมีการเข้ารหัสและบันทึกเวลา (Time Stamp) ของการเซ็นเอกสารกับทาง TEDA (Trusted Electronic Document and Authentication) ของ ETDA เป็นการประทับรับรองเวลาอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ด้วย Timestamping Authority (TSA) ที่มีความน่าเชื่อถือและมีการตรวจสอบความถูกต้องของเวลาที่ใช้อ้างอิง สามารถใช้ประกอบการลงลายมือชื่อดิจิทัล หรือเพื่อรับรองการมีอยู่ของเอกสาร โดยให้ TSA เป็นเสมือนพยาน หรือบุคคลที่สามที่เชื่อถือได้ เนื่องจากมิได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเอกสารดังกล่าว อีกทั้งสามารถใช้ในการตรวจสอบว่าเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการประทับรับรองเวลาแล้วนั้น ถูกแก้ไขหรือไม่ โดยปัจจุบันมีหน่วยงานภาครัฐหลายๆ แห่งใช้ระบบนี้ เช่น ศาลและหน่วยงานราชการหลายๆ แห่ง เช่น กรมพัฒนาที่ดิน คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล เป็นต้น
โดยระบบเซ็นเอกสารออนไลน์นี้ เป็นของ http://www.Creden.co สตาร์ทอัพไทยที่พัฒนาเทคโนโลยีการยืนยันตัวตน (eKYC – Electronic Know Your Customer) ร่วมกับการเซ็นเอกสารทางออนไลน์ (eSignature) รวมไปถึงระบบฐานข้อมูลบริษัทและการให้คะแนน Credit Score ที่พัฒนาเทคโนโลยีทางด้านนี้ให้กับหน่วยงานรัฐและเอกชนมานาน ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากของการนำองค์กรเข้าสู่โลกดิจิทัล ซึ่งเปิดให้บริการกับองค์กรต่างๆ ทั่วสามารถใช้บริการได้ตามหลักของมาตรฐานและกฎหมายของประเทศไทย
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :