ฝรั่งเศสและเยอรมนีประกาศให้การสนับสนุนโครงการที่จะสร้างระบบนิเวศน์การประมวลผลบนระบบคลาวด์ (Cloud Computing Ecosystem) ซึ่งจะทำให้ยุโรปสามารถลดการพึ่งพาบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ
โครงการดังกล่าวซึ่งใช้ชื่อว่า Gaia-X จะสร้างมาตรฐานร่วมกันสำหรับการเก็บรักษาและการประมวลผลข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ซึ่งอยู่ในแต่ละประเทศ และจะปฏิบัติตามกฎหมายที่เข้มงวดของสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับข้อมูลความเป็นส่วนตัว
Peter Altmaier รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานของเยอรมนี โดยอธิบายว่าโครงการ Gaia-X เป็นแนวคิดแบบ “Moonshot” ซึ่งจะช่วยสนับสนุนอธิปไตยด้านเทคโนโลยีของยุโรป และจะเชิญชวนให้ประเทศอื่นๆ และบริษัทต่างๆ เข้าร่วม
ทั้งนี้ Moonshot เป็นคำที่เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยของประธานาธิบดี John F. Kennedy ของสหรัฐฯ ที่ส่งจรวดไปสำรวจดวงจันทร์ในปี 2512 ซึ่งหมายถึงการคิดในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่เคยมีใครตั้งเป้าหมายแบบนี้มาก่อน โดยนำทรัพยากรต่างๆ ที่ไม่เคยถูกคิดค้นหรือนำมาใช้ก่อนหน้านี้ เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคไปให้ถึงจุดหมายที่ต้องการ
Bruno Le Maire รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน ของฝรั่งเศสกล่าวว่า “เราไม่ใช่จีน เราไม่ใช่สหรัฐ แต่เราเป็นประเทศยุโรปที่มีคุณค่าของเราเอง และมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เราต้องการจะปกป้อง”
การริเริ่มโครงการดังกล่าวเกิดขึ้น ในขณะที่ฝรั่งเศสและเยอรมนีเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยทั้งสองประเทศได้สนับสนุนแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของ EU ในวงกว้าง ขณะที่เยอรมนีก็เพิ่งประกาศมาตรการกระตุ้นด้านการคลังครั้งใหญ่
ในขั้นตอนแรกนั้น บริษัทฝรั่งเศสและเยอรมนีกว่า 22 แห่งจะจัดตั้งมูลนิธิที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อดำเนินโครงการ Gaia-X ดังกล่าว ซึ่งก็จะไม่ถูกคิดว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับผู้ให้บริการระบบคลาวด์รายใหญ่ของสหรัฐ แต่จะเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ร่วมกันของยุโรป
Michel Paulin ซึ่งเป็น CEO ของ OVHcloud ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ของฝรั่งเศสกล่าวว่า “การสร้างระบบคลาวด์ทางเลือกในยุโรปมีความเป็นไปได้ หากเราร่วมมือกัน”
แนวคิดที่สำคัญประการหนึ่งที่สนับสนุนโครงการ Gaia-X ได้แก่ “ความสามารถในการถอนกลับ (reversibility)” ซึ่งเป็นหลักการที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนผู้ให้บริการระบบคลาวด์ได้อย่างง่ายดาย โดยยุโรปจะเริ่มเสนอบริการดังกล่าวในปี 2564
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
https://southeusummit.com/sectors/business/france-and-germany-turn-to-hi-tech/